เรื่องแบบนั้นคงไม่เกิดกับฉันแน่    

    การเดินทางมักมีค่าใช้จ่ายสูง หลังจากคำนวณค่าใช้จ่ายในการซื้อตั๋วเครื่องบิน จองที่พักและ เผื่อพ็อกเก็ตมันนี่ไว้ช้อปปิ้งแล้ว การซื้อประกันการเดินทางก็อาจกลายเป็นเรื่องที่จำเป็นน้อยที่สุดในทันที และเหนืออื่นใด หลายๆ คนมักคิดว่า “เรื่องแบบนั้นคงไม่เกิดกับฉันแน่...” แม้มันอาจดูท้าทายที่จะลองเสี่ยงดวงและภาวนาในใจว่าทริปนี้จะปลอดภัย ตั้งแต่ต้นจนจบ เพียงเพื่อประหยัดเงินค่าประกันเพียงไม่กี่บาท แต่ลองคิดดูว่า หากมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นจริงๆ ผลที่ได้ อาจไม่คุ้มเสีย

    ค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวในโรงพยาบาลดีๆ ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจสูงกว่า 27,000 บาทต่อคืน ในขณะที่บริการขนส่งผู้ป่วยทางอากาศจากสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นที่ 2,530,000 บาท และอาจมากถึง 10,150,000 บาท แล้วแต่กรณี หรือแม้แต่ประเทศที่ใกล้ขึ้นก็ยังมีตัวเลขที่น่ากังวลใจ เช่น รัฐบาลออสเตรเลียได้เตือนนักเดินทางว่าการขนส่งผู้ป่วยจากบาหลีอาจมีค่าใช้ จ่ายสูงกว่า 60,000 เหรียญออสเตรเลีย (ประมาณ 1,551,000 บาท) ยิ่งไปกว่านั้น หากไปยกเลิกบริการที่จองไว้ เงินมัดจำที่จ่ายไปแล้วเป็นหมื่นๆ บาทก็จะไม่ได้คืน

    ถึงแม้ว่าคุณจะมีสุขภาพดี มีร่างกายที่แข็งแรง และมีโอกาสน้อยที่จะล้มป่วย แต่ประกันการเดินทาง ไม่เพียงแค่ช่วยคุณในเรื่องของค่ารักษาพยาบาลเท่านั้น ยังรวมไปถึงปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเที่ยวบินล่าช้า สัมภาระหาย บัตรเครดิตถูกขโมย และกรณีฉุกเฉินอื่นๆ ที่อาจทำให้เราต้องเดินทางกลับก่อนกำหนด หรือแม้แต่ระงับแผนการเดินทางทั้งหมด ซึ่งประกันการเดินทางจะช่วยคุ้มครองเราจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเหล่านี้

คิดว่าไม่สำคัญ เพราะบัตรเครดิตที่ใช้ครอบคลุมความรับผิดชอบในกรณีนี้อยู่แล้ว?

    บัตรเครดิตจำนวนไม่น้อยได้พ่วงประกันการเดินทางรวมให้ลูกค้าด้วย แต่ก็อย่าลืมประเด็นสำคัญที่ว่ากรมธรรม์จะมีผลก็ต่อเมื่อเราใช้บัตรเครดิตใบ นั้นๆ ชำระเงินค่าตั๋วเดินทางสำหรับทริปนั้น อีกทั้งผลประโยชน์ที่ได้รับก็ไม่ครอบคลุมเท่าประกันการเดินทางที่ซื้อแยก เฉพาะสำหรับการเดินทางทริปนั้นๆ ดังนั้น ควรตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียดว่าบัตรเครดิตของคุณมอบความคุ้มครองในรูปแบบใด บ้าง

เข้าใจแบบประกันที่คุณมี

    อย่าลืมว่าประกันมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละแบบจะแตกต่างกันไปตามงบของเรา ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ผู้ซื้อประกันจะศึกษารายละเอียดของผล ประโยชน์เพื่อเลือกแบบประกันที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด โดยเฉพาะรายละเอียดสำคัญต่างๆ ที่ต้องคำนึงถึง มีดังนี้ :

• ประเภทของผลประโยชน์ที่แบบประกันเสนอ
• มูลค่าความคุ้มครองของค่ารักษาพยาบาล
• มูลค่าความคุ้มครองในกรณีอุบัติเหตุ
• มูลค่าความคุ้มครองในกรณียกเลิกการเดินทางและในกรณีลดจำนวนวันเดินทาง

    หากเดินทางเป็นกลุ่มแบบครอบครัว ลองดูให้แน่ใจว่าแผนประกันกลุ่มมอบผลประโยชน์รูปแบบใดบ้าง ทั้งนี้ แพ็กเกจประกันแบบครอบครัวมักมีราคาต่ำกว่าแบบรายบุคคล

    ท้ายที่สุด ให้ระลึกเสมอว่าประกันการเดินทางมีประโยชน์ ไม่ใช่เฉพาะแค่การเดินทางระยะไกลเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการเดินทางระยะใกล้ๆ ด้วย แม้ว่า คุณอาจมีแผนประกันที่คุ้มครองสุขภาพอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่มักไม่คุ้มครองในขณะที่เดินทางในต่างประเทศ อีกทั้งกรมธรรม์บางแบบก็ให้ความคุ้มครองเฉพาะบางภูมิภาคของแต่ละประเทศ เท่านั้น ในขณะที่ประกันการเดินทางคุ้มครองไปถึงการยกเลิกการเดินทางและเหตุร้ายอื่นๆ

    ตราบใดที่แปรงสีฟันหรือหนังสือเดินทางคือสิ่งที่เราต้องมีติดไปในกระเป๋า ประกันการเดินทางที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับทุกทริปเช่นกัน