Jet Lag (เจ็ทแลค) คืออาการที่มักเกิดขึ้น เมื่อเราต้องเดินทางข้ามเส้นแบ่งเวลาของโลก (Time zone) ที่ใช้กำหนดเวลาของแต่ละภูมิประเทศในโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อนาฬิกาชีวภาพในร่างกาย (Circadian Rhythm) จนเกิดอาการเบลอ ๆ หลงลืมไปชั่วขณะ หรือนอนไม่หลับ ที่เราเรียกว่าเจ็ทแลคขึ้นมาได้ ดังนั้น ถ้าไม่อยากเจออาการเจ็ทแลคเรามาดู 5 วิธีสุดเจ๋ง! รับมืออาการ Jet Lag กันเลย
อย่างที่เกริ่นไว้ตอนต้นว่าอาการเจ็ทแลค หรืออาการเมาเวลา เป็นผลมาจากนาฬิกาชีวภาพในร่างกาย (Circadian Rhythm) แปรปรวน ส่งผลให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติชั่วคราว ซึ่งแต่ละคนอาจมีอาการเจ็ทแลคแตกต่างกัน เช่น นอนไม่หลับ เวียนหัว และหงุดหงิดง่าย ที่ต่อให้คุณจะเดินทางบ่อยเป็นประจำแค่ไหน อาการเจ็ทแลคก็สามารถเกิดขึ้นได้อยู่เสมอ ๆ มาเตรียมความพร้อม หาวิธีลดอาการเจ็ทแลคเพื่อให้ทริปต่อไปของคุณสนุกขึ้นกว่าที่เคย
หนึ่งสัปดาห์ก่อนการเดินทางควรปรับเวลาการเข้านอนไว้ล่วงหน้าสักหน่อย เพื่อลดอาการเจ็ทแลคให้เบาลงบ้างเมื่อต้องเดินทางจริง โดยเริ่มจากปรับเวลาเข้านอนให้ไวขึ้น หรือช้ากว่าปกติ ขึ้นอยู่กับเวลาท้องถิ่นในประเทศที่คุณกำลังจะเดินทางไป หากต้องเดินทางข้ามเขตเวลาฝั่งตะวันออก ให้เข้านอนเร็วขึ้น 1 ชั่วโมงจากเวลานอนปกติ และหากต้องเดินทางข้ามเขตเวลาฝั่งตะวันตก ให้เข้านอนช้ากว่าเวลานอนปกติไป 1 ชั่วโมง และควรพักผ่อนนอนหลับให้เต็มอิ่ม เพื่อให้ร่างกายค่อย ๆ ปรับสมดุล โดยเฉพาะนาฬิกาชีวภาพของร่างกายให้เตรียมรับมือกับอาการเจ็ทแลคล่วงหน้า
ข้อนี้ขอแนะนำสำหรับคนที่มีอาการ Jet Lag จนนอนไม่หลับจริง ๆ เท่านั้น เนื่องจากยาเมลาโทนินจะมีสรรพคุณ หรือข้อบ่งใช้สำหรับการรักษาในระยะสั้น ๆ เพื่อรักษาอาการนอนไม่หลับที่มีลักษณะของการหลับที่ไม่ดีและไม่มีคุณภาพโดยตรง ในส่วนของผู้ที่ต้องการปรับเวลานอนก่อนเดินทาง แนะนำรับประทานยาเมลาโทนินในตอนกลางคืนของวันที่เดินทาง และช่วงกลางคืนในอีก 2-3 วันหลังเดินทางถึงที่หมายแล้ว หากต้องบินข้ามเขตเวลาไปทางฝั่งตะวันออก ควรรับประทานเมลาโทนินในช่วงเย็น 2-3 วันก่อนการเดินทาง เพื่อเป็นตัวช่วยให้ร่างกายสามารถจัดการกับเวลาที่เปลี่ยนไปได้ดีขึ้น ควรรับประทานยาเมลาโทนินภายใต้คำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย โดยต้องปรึกษาแพทย์ถึงประวัติการป่วยและการใช้ยาของผู้ป่วยก่อนเริ่มรับยาเสมอ (ขอบคุณข้อมูลจาก Pobpad)
สำหรับใครที่มีเวลาเตรียมตัวพักผ่อนน้อย แล้วมานึกขึ้นได้ว่าอาจเจออาการเจ็ทแลคตอนนั่งอยู่บนเครื่อง! เจ็ทแลค แก้ยังไงได้บ้าง ขอแนะนำให้นอนหลับพักผ่อนบนเครื่องบิน โดยพยายามนอนหลับให้ได้ตามช่วงเวลากลางคืนเป็นหลัก พูดง่าย ๆ คือหากคุณเดินทางในช่วงกลางคืนก็นอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่ เพราะการนอนระหว่างเดินทางในช่วงกลางวัน อาจส่งผลให้คุณต้องเจอกับอาการเจ็ทแลคที่รุนแรงมากขึ้นกว่าปกติได้
น้ำเปล่าคือสิ่งที่ดีที่สุด แม้ในขณะที่ต้องเดินทางอยู่บนเครื่องบิน เพราะสภาพอากาศที่แห้งบนเครื่องบินจะทำให้ร่างกายค่อย ๆ สูญเสียน้ำจนทำให้เกิดอาการขาดน้ำและอ่อนเพลียเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งง่ายต่อการเกิดอาการเจ็ทแลคเมื่อถึงจุดหมายปลายทางนั่นเอง ระหว่างที่อยู่บนเครื่องบินแนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าแทนเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน หรือแอลกอฮอล์ให้มากที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงอาการเจ็ทแลคที่อาจเกิดขึ้นได้
การพาตัวเองออกไปเดินเล่นเพื่อรับแดดรับลมเมื่อเดินทางถึงประเทศปลายทาง เป็นอีกหนึ่งวิธีการที่ช่วยลดอาการเจ็ทแลคได้ เพราะการออกไปอยู่กลางแจ้งช่วยให้นาฬิกาชีวภาพของร่างกายปรับตัวได้เร็วขึ้น อีกทั้งแสงแดดในตอนกลางวันยังเป็นตัวช่วยลดความเหนื่อยล้า และอาการเบื่อหน่ายที่แทรกขึ้นมาระหว่างทริปเที่ยวได้อย่างไม่ตั้งใจอีกด้วย ดังนั้น เมื่อถึงที่หมายปลายทางเมื่อไหร่ ลองหาเวลาออกเดินเล่นกลางแจ้งกันดูบ้าง
ลองนำวิธีรับมือกับอาการเจ็ทแลคเหล่านี้ไปปรับใช้ และเตรียมร่างกายให้พร้อมตั้งแต่ก่อนออกเดินทางรวมถึงตัวช่วยดี ๆ อย่างประกันการเดินทาง ที่มีทั้งแผนประกันเดินทางรายเที่ยวและประกันเดินทางรายปี ให้คุณหมดกังวลกับเรื่องไม่คาดคิด หมดห่วงหากเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุ ข้าวของเสียหาย กระเป๋าดีเลย์ สูญหาย หรือชำรุด ไฟลท์ดีเลย์ รวมไปถึงเกิดเหตุไม่คาดคิดทำให้ต้องยกเลิกทริป เพื่อให้คุณไม่พลาดทุกความสนุก ไม่ต้องกลัวสะดุดเมื่อต้องออกเดินทาง
สนใจประกันภัยการเดินทาง โทร. 0 2611 4242