
จะกี่ฤดูกาล ‘ญี่ปุ่น’ ก็เป็นประเทศในฝันของนักท่องเที่ยวทั่วโลกไม่เสื่อมคลาย ยิ่งช่วงเวลาที่ดอกซากุระผลิบานและฤดูใบไม้แดง (ใบไม้เปลี่ยนสี) ช่วงปลายเดือนตุลาคมจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ญี่ปุ่นดูจะเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวชาวไทยโปรดปรานเป็นที่สุด แต่หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้หลายคนเป็นกังวลเรื่องการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น เพราะไม่แน่ใจว่าต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนหรือไม่? ต้องขอวีซ่าหรือเปล่า? ชับบ์อัปเดต 4 เรื่องควรรู้ก่อนเตรียมตัวไปญี่ปุ่นปี 2024 พร้อมอธิบายขั้นตอนการลงทะเบียนออนไลน์ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้
แม้การเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นไม่เกิน 15 วัน จะไม่ต้องขอวีซ่า แต่สิ่งสำคัญคือพาสปอร์ตของคุณต้องมีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน เนื่องจากหลายสายการบินไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารที่มีพาสปอร์ตอายุเหลือน้อยกว่า 6 เดือนขึ้นเครื่องบิน ทางที่ดีควรตรวจเช็กอายุของพาสปอร์ตให้เรียบร้อย ทำพาสปอร์ต หรือต่อพาสปอร์ตในกรณีที่พาสปอร์ตมีอายุน้อยกว่า 6 เดือนจะดีกว่า (คลิกเข้าไปอ่านบทความต่อพาสปอร์ตได้ที่ >> )
ก่อนหน้านี้รัฐบาลญี่ปุ่นมีข้อกำหนดให้ผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นต้องฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม และเป็นวัคซีนที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) เท่านั้น ได้แก่ Pfizer / Moderna / AstraZeneca / Johnson & Johnson (เข็มแรกนับเป็น 2 เข็ม) / COVAXIN / Bharat Biotech / Novavax / Sinovac หรือSinopharm (สามารถฉีดไขว้ได้) โดยไม่ต้องตรวจ PCR และไม่ต้องกักตัวเมื่อถึงประเทศญี่ปุ่น
แต่ข่าวดีก็คือ นับตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน 2566 รัฐบาลญี่ปุ่นได้ยกเลิกมาตรการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งกลุ่มประเทศเป็นสีต่าง ๆ ไม่มีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในทุกสนามบิน (ยกเว้นผู้ที่แสดงอาการ) รวมถึงยกเลิกมาตรการกักตัว ทำให้เราสามารถเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเคยฉีดวัคซีนหรือไม่? ทั้งยังไม่จำกัดยี่ห้อและจำนวนเข็มที่ฉีดวัคซีนอีกด้วย รวมถึงไม่ต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซัน หรือใบรับรองการตรวจโควิดก่อนเดินทาง เนื่องจากญี่ปุ่นได้ลดระดับมาตรการของโควิด-19 อยู่ที่ระดับ 5 เทียบเท่ากับไข้หวัดใหญ่เป็นที่เรียบร้อย (อ้างอิงข้อมูลจาก https://www.mhlw.go.jp/stf/covid-19/bordercontrol.html)
หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับการกรอกแบบฟอร์มตรวจคนเข้าเมือง (สีเหลือง) และแบบฟอร์มพิธีการศุลกากร (สีฟ้า) ที่ลูกเรือแจกให้กับผู้โดยสารบนเครื่องบิน (ปัจจุบันไม่มีการแจกแบบฟอร์มทั้งสองบนเครื่องบินแล้ว) แต่มาตรการใหม่ที่ประกาศไว้เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 แนะนำให้ผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นลงทะเบียนออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ Visit Japan เพื่อให้การเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้รับความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น
ไม่ต้องรอคิวนานบริเวณจุดตรวจคนเข้าเมืองในสนามบิน ได้แก่ แบบฟอร์มตรวจคนเข้าเมือง (Immigration Form) และพิธีการศุลกากร (Customs Declaration) หลังจากลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว คุณจะได้รับ QR Code สำหรับแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่ศุลกากร โดยมีขั้นตอน ดังนี้
** Note: เมื่อเดินทางถึงสนามบินที่ประเทศญี่ปุ่นแล้ว คุณสามารถแสดง QR Code ของ Immigration ได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง และแสดง QR Code ของ Customs Declaration ให้เจ้าหน้าที่ศุลกากร หลังจากรับกระเป๋าเดินทางเรียบร้อยแล้ว
ถึงแม้ว่าโควิดอาจจะเริ่มซาลงแล้ว แต่สิ่งที่ควรระวังคือโรคภัยไข้เจ็บอื่น ๆ เวลาไปเที่ยว ประกันภัยการเดินทางจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่า เราจะเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันหรือไม่ เช่นเกิดอุบัติเหตุ เจ็บป่วย ทรัพย์สินสูญหาย กระเป๋าชำรุด หรือเที่ยวบินล่าช้า ซึ่งอาจทำให้เราเสียเวลาและเสียเงิน แถมยังกังวลใจทำให้เที่ยวไม่สนุก
การมีประกันภัยการเดินทาง จะช่วยทำหน้าที่ประสานงานในการเข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาลในญี่ปุ่น รวมถึงให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินระหว่างอยู่ต่างแดน เพื่อให้คุณรู้สึกปลอดภัยและอุ่นใจมากขึ้น และสำคัญที่สุดควรเลือกประกันภัยที่มีความน่าเชื่อถือ ได้รับการยอมรับระดับโลก และครอบคลุมความเสี่ยงต่างๆที่อาจเกิดขึ้นขณะเดินทางได้ เราขอแนะนำประกันภัยการเดินทางชับบ์ เพื่อเที่ยวสนุกและมั่นใจได้ทุกจุดหมาย (Chubb Travel Insurance) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2611-4242