จากเดิมที่ต้องเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านไม่ว่ามาจากการกักตัวหรือเป็นมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ตอนนี้เราเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกตินอกบ้านได้แล้วรูปแบบ New Normal

แนวโน้มการท่องเที่ยวในอนาคตที่เปลี่ยนไปหลังจบวิกฤตโควิด

ตอนนี้โลกได้ผ่านพ้นวิกฤตโรคโควิด-19 ที่ได้ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อพฤติกรรมการดำเนินชีวิตประจำวันหลายอย่าง อาทิเช่นจากเดิมที่ต้องเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านไม่ว่ามาจากการกักตัวหรือเป็นมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ตอนนี้เราเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกตินอกบ้านได้แล้วรูปแบบ New Normal

จากระยะเวลาตั้งแต่เกิดโรคโควิด-19 เกิดขึ้นมา ทำให้รูปแบบการใช้ชีวิตและแนวโน้มการท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงไปทั้งในภาคธุรกิจอย่างผู้ให้บริการการท่องเที่ยวอย่างสายการบินหรือโรงแรมมีการปรับปรุงการให้บริการโดยมุ่งเน้นด้านสุขภาพมากขึ้น และในส่วนของนักท่องเที่ยวเอง ปัจจัยในการจัดทริปเที่ยวก็จะเปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน 

โดยเฉพาะการท่องเที่ยวต่างประเทศ

ศทางการท่องเที่ยวต่างประเทศในวันที่นักท่องเที่ยวเปลี่ยนไป

ในอนาคตอาจมีแนวโน้มการปรับตัวทั้งทางภาครัฐและนักท่องเที่ยว โดยในส่วนของภาครัฐอาจมีการทำหนังสือเดินทางเกี่ยวกับสุขภาพโดยเฉพาะ (Heath digital passport) เพื่อตรวจสอบสุขภาพก่อนการเดินทาง ภายใต้แนวคิด FTT หรือ Fit to Traveling ซึ่งนักท่องเที่ยวเองต้องรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการเดินทาง นอกจากนี้การท่องเที่ยวต่างประเทศ ในขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวต้องทำการบ้านมากขึ้น ทั้งในเรื่องสถานที่และการเดินทางที่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยมากขึ้น โดยในอนาคตสิ่งนักท่องเที่ยวจะคำนึงถึงก่อนออกเดินทางไปต่างประเทศมีดังนี้

ความสะอาดต้องมาก่อน

หลังจากการใช้ชีวิตด้วยการรักษาความสะอาด ปลอดเชื้อโรคมาหลายเดือน ความใส่ใจเรื่องเชื้อโรคจะกลายเป็น New Normal ผู้คนจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้จนกลายเป็นเรื่องปกติ การท่องเที่ยวก็เช่นเดียวกัน นักท่องเที่ยวจะเลือกสถานที่ท่องเที่ยวและที่พัก จากความสะอาด ปลอดภัยเชื้อโรคเป็นลำดับแรก โดยพิจารณาจากระบบการทำความสะอาด มาตรการการดูแลแขก เป็นต้น

ในตอนนี้ประเทศไทยได้ยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยด้านสาธารณสุขที่ได้ในการป้องกันโควิด-19 ของสถานประกอบการ โรงแรมหรือที่พัก ภายใต้หน่วยงานชื่อ SHA (Amazing Thailand Safety & Health Administration) ที่มีหน้าที่ตรวจสอบและการันตีสถานประกอบการโรงแรมหรือที่พักเรื่องความปลอดภัยผ่านเกณฑ์พื้นฐานผ่านมาตรฐานการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นการสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการในสถานที่นั้น

ความแออัดต้องลดลง

จากอดีตนักท่องเที่ยวต่างต้องการไปสถานที่สำคัญ สถานที่มีชื่อเสียง ถึงแม้จะต้องเผชิญกับเพื่อนนักเดินทางจำนวนมากก็ตาม แต่ในอนาคตสถานที่เหล่านี้อาจไม่อยู่ในตัวเลือกของนักเที่ยวอีกต่อไป การหลีกเลี่ยงเพื่อเผชิญกับผู้คนจำนวนมาก เป็นความเคยชินจากการรักษาระยะห่างในสังคม ซึ่งอาจเกิดกับการท่องเที่ยวในอนาคต เมื่อการรักษาระยะห่างกลายเป็นเรื่องที่จำเป็น สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมก็อาจไม่จะนิยมอีกต่อไป

เมื่อสถานที่ยอดนิยมกลายเป็นเป้าหมายรอง สถานที่ท่องเที่ยวภายในเมือง การเยี่ยมชมสถาปัตยกรรม และการสัมผัสวัฒนธรรมของแต่ละประเทศจะได้รับความนิยมน้อยลง ส่วนการท่องเที่ยวแบบสำรวจธรรมชาติอย่างเช่น การเดินป่า ปีนเขา การดำนำลึก จะเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น เนื่องจากกิจกรรมเหล่านี้เป็นการท่องเที่ยวที่มีผู้คนจำนวนไม่มาก ทำให้ความเสี่ยงด้านโรคภัยไข้เจ็บจะลดน้อยตามไปด้วย

ท่องเที่ยวด้วยตัวเองมากขึ้น

หลังจากจบวิกฤตโควิดการหลีกเลี่ยงการอยู่ร่วมกับคนแปลกหน้าเป็นระยะเวลานานเป็นเรื่องสำคัญเพื่อลดความเสี่ยงจากการเจ็บป่วย ดังนั้นแนวโน้มการท่องเที่ยวในอนาคตจึงเปลี่ยนแปลงไป การเที่ยวแบบกลุ่มทัวร์จะลดน้อยลง นักท่องเที่ยวจะหันมาท่องเที่ยวด้วยตัวเองมากขึ้น หรือหากเที่ยวเป็นกลุ่มเพื่อนก็จำกัดจำนวนให้น้อยลง เหลือแค่เพียงคนใกล้ตัวเท่านั้น เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรค

สำหรับการเดินทางด้วยตัวเอง สิ่งสำคัญคือการวางแผน ตั้งแต่การเลือกจำนวนเพื่อนร่วมทาง อยากสะพายเป้เที่ยวคนเดียว หรือไปกับกลุ่มเพื่อนรู้ใจ จะไปเที่ยวธรรมชาติหรือไปเที่ยวเมือง ต้องศึกษาวางแผนให้ดีก่อนออกเดินทาง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะตามมาภายหลัง เช่น การขอวีซ่าในแต่ละประเทศ, เครือข่ายโทรศัพท์ที่ใช้ในการเปิด Roaming, การเตรียมพร้อมหากพาสปอร์ตหาย ซึ่งเรื่องเหล่านี้ในอดีตเป็นหน้าที่ของทัวร์เป็นผู้ดูแล
แต่ถ้าหากไปเที่ยวด้วยตัวเองเรื่องเหล่านี้เป็นข้อควรระวังที่ต้องเตรียมพร้อมก่อนออกเที่ยวต่างประเทศ

รถยนต์ส่วนตัวคือทางเลือกหลักในการเดินทาง

จากพฤติกรรมการเดินทางในช่วงกักตัว ผู้คนใช้บริการการเดินทางสาธารณะน้อยลงเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญเชื้อโรค ซึ่งทำให้เกิดความเคยชินด้านพฤติกรรมการเดินทาง ดังนั้นวิธีการเดินทางจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการจัดทริปเที่ยว การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะอย่าง รถบัสหรือรถไฟจะน้อยลง ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวจะเพิ่มมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงด้วยวิธีการเว้นระยะห่างในสังคม

การท่องเที่ยวต่างประเทศจะเปลี่ยนจากการเดินทางด้วยการขนส่งสาธารณะเป็นการเช่ารถยนต์แทน และสถานที่ท่องเที่ยวปลายทางก็จะเปลี่ยนแปลงไป จากอดีตที่เคยท่องเที่ยงในบริเวณเมือง หลังจากจบวิกฤตโควิดการเช่ารถขับเที่ยวชื่นชมชนบทสองข้างทางแบบ Road trip จะเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น และสำหรับใครที่วางแผน Road trip ขับรถยนต์เที่ยวต่างประเทศ อย่าลืมทำใบขับขี่สากล และที่สำคัญไม่ว่าจะเดินทางไปที่ใด หรือรูปแบบไหน อย่าลืมทำประกันการเดินทางเพื่อเพิ่มความอุ่นใจในการเดินทาง

สนใจประกันภัยการเดินทาง โทร. 0 2611 4242