
เช็กอินเที่ยว โอซาก้า เที่ยวเดือนไหนดีให้ฟินสุด
เมืองที่มีเสน่ห์เหลือล้นอย่าง “โอซาก้า” หรือ “โอซากะ” (Osaka) นับเป็นศูนย์รวมความคึกคักแห่งคันไซ (Kansai) กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวแดนไกลทั่วทุกมุมโลก ดังนั้นอย่ารอช้า วางแผนเดินทาง จองตั๋วเครื่องบิน และเตรียมพร้อมเก็บกระเป๋า ที่สำคัญอย่าลืมเตรียมประกันเดินทางไปด้วย พกไว้อุ่นใจแน่นอน เมื่อพร้อมแล้วก็ปักหมุดเตรียมที่เที่ยวในโอซาก้ากันเลย ไปเช็กอินกับ 5 สัญลักษณ์แห่งโอซาก้าที่ต้องไปให้ถึงกันเลย
1. ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle): แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่ติดอันดับ Top 3 ของญี่ปุ่น ตัวปราสาทมีทั้งหมด 8 ชั้น พื้นที่ตั้งแต่ชั้น 1 ไปจนถึง ชั้น 7 เป็นส่วนจัดแสดงความเป็นมาของการก่อตั้งปราสาท สัญลักษณ์ประจำเมืองแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 16 ตั้งอยู่ใจกลางเขตโอซาก้า มีสวนสวยรอบปราสาทเต็มไปด้วยต้นบ๊วยที่พร้อมเบ่งบานให้ชมเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิในช่วงกลางเดือนมีนาคม และดอกซากุระที่พร้อมผลิดอกให้ชื่นชมในเดือนเมษายน นอกจากนี้ใกล้ ๆ ยังมีพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โอซาก้าให้ได้เข้าไปเรียนรู้มรดกทางวัฒนธรรม ทั้งนี้ การเดินทางไปปราสาทโอซาก้านั้นสะดวกเพราะมีสถานีรถไฟรายล้อมอยู่หลายจุด เนื่องจากสวนมีขนาดใหญ่และเข้าได้จากหลายประตู แต่แนะนำให้ลงรถไฟสถานีทานิมาจิ ยงโจเมะ (Tanimachi Yonchome) เพราะอยู่ใกล้กับประตูใหญ่โอเทะมง เหมาะสำหรับคนที่อยากเข้าจากด้านหน้าปราสาทดื่มด่ำบรรยากาศได้แบบเต็มอิ่ม
2.ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์เจแปน (Universal Studios Japan หรือ USJ): สวนสนุกยอดนิยมเหมาะกับทุกเพศทุกวัย และไม่ว่าการเดินทางครั้งนี้คุณจะมากับกลุ่มเพื่อน หรือครอบครัว หรือจะเที่ยวโอซาก้าแบบลุยเดี่ยว หรือเป็นคู่รัก บอกเลยว่าห้ามพลาด เพราะที่นี่ได้เนรมิตพื้นที่ขนาดใหญ่ให้เป็นสวนสนุกระดับโลกที่อลังการงานสร้างจนนักท่องเที่ยวทั่วโลกปักหมุดว่าต้องมาให้ได้ แนะนำให้จองบัตรเครื่องเล่นไปก่อนเวลา เพราะแถวซื้อบัตรด้านหน้าสวนสนุกค่อนข้างยาวมาก หากซื้อมาก่อนจะได้ไม่เสียเวลา เพราะมาถึงถิ่นUSJ ทั้งทีจะได้พร้อมตะลุยเที่ยวให้สนุกสุดเหวี่ยงกับเครื่องเล่นได้ครบทุกชนิด แน่นอนว่าโซนยอดนิยมอย่างWizarding World of Harry Potter คือไฮไลท์ที่ถอดแบบออกมาได้แบบเป๊ะปังตั้งแต่ป่าสนด้านหน้าไปจนถึงปราสาทฮอกวอร์ด บรรยากาศครบเหมือนหลุดออกมาจากนิยาย และเครื่องเล่นอีกมากมายที่ถอดแบบออกมาจากภาพยนตร์ที่ใส่ความสนุกลงไปแบบไม่ยั้งอย่าง Despicable Me Minion Mayhem, The Flying Dinosaurและ The Amazing Adventures of Spider-Man The Ride 4K3D รวมไปถึงโซนใหม่ Super Nintendo Worldที่จัดมาเอาใจสาวกNintendo ทั้งนี้ USJ เต็มไปด้วยโซนเครื่องเล่นมากถึง 15โซน นอกจากนี้ยังมีขบวนพาเหรดสุดอลังการอีกด้วย การเดินทางก็แสนง่ายด้วยรถไฟสายJR Yumesaki Lineมาลงที่สถานี Universal Cityและเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 5 นาที ก็ถึงที่หมายแล้ว
3. ชิงช้าสวรรค์เท็มโปซาน (Tempozan Ferris Wheel) : เที่ยวโอซาก้าต้องไม่พลาดชิงช้าสวรรค์ที่ครองสถิติใหญ่ที่สุดของโลกอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง ด้วยความสูงที่ 112.5 เมตร ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีต่อหนึ่งรอบ ตัวกระเช้าเป็นกระจกใส ทำให้สามารถนั่งชมความงามแบบพานอรามาได้เต็มอิ่ม จากจุดนี้สามารถมองเห็นยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์และสะพานแดงได้ด้วย สวยงามทั้งเวลากลางวันที่สามารถชมทิวทัศน์ของอ่าวโอซาก้าได้อย่างชัดเจน ตกกลางคืนมีการประดับไฟระยิบระยับไปทั่วบริเวณ ใกล้กันยังมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Osaka Aquarium KAIYUKAN) ที่โด่งดัง ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็อยากจะแวะไปเยี่ยมชมให้ได้สักครั้ง หากเดินทางโดยรถไฟสาย Chuo Line สามารถลงที่สถานี Osakako ใช้ทางออก 2 จะมองเห็นชิงช้าสวรรค์ จากนั้นตรงดิ่งเข้าไปได้เลย แถมช่วงต้นเดือนธันวาคมต้นแปะก๊วยตลอดสองฟากถนนจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองอร่ามสวยตราตรึง
4. ตลาดคุโรมง (Kuromon Ichiba Market) : ผู้ที่ชื่นชอบการกินต้องห้ามพลาดกับตลาดขายอาหารที่เก่าแก่คู่เมือง ที่ถูกก่อตั้งมานานกว่า 100 ปี จนได้รับสมญานามว่าครัวแห่งโอซาก้า ที่นี่เต็มไปด้วยร้านค้ากว่า 160 ร้าน จำหน่ายทั้งอาหารสดแบบเป็นตัวให้นำกลับไปปรุงเองที่บ้าน มีอาหารขึ้นชื่อทั้งปูยักษ์ กุ้ง หอย ปลา แน่นอนว่าที่นี่ นักท่องเที่ยวสามารถหาปูทาราบะขนาดใหญ่ได้จากตลาดแห่งนี้ และอาหารแบบพร้อมเสิร์ฟตั้งแต่ของกินเล่นไปจนถึงอาหารพื้นเมือง การเดินทางสะดวกสบาย โดยทางเข้าตลาดตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน Nippombashi สาย Sakaisuji Line โดยใช้ทางออกที่ 5 หรือ 10 รับรองว่าที่นี่ควรค่าแก่การไปลอง เที่ยวโอซาก้าทั้งทีต้องห้ามพลาด
5. ศาลเจ้าโอซาก้าเทนมังงุ (Osaka Tenmangu Shrine) :ศาลเจ้าที่โด่งดังแห่งนี้ มีชื่อเสียงเรื่องการเรียนและการสอบประเภทต่าง ๆ หากเป็นช่วงใกล้ฤดูแห่งการสอบแข่งขัน ศาลเจ้าแห่งนี้ก็จะเนืองแน่นไปด้วยนักเรียนและนักศึกษาที่แวะเวียนมากราบไหว้ขอพรให้ประสบความสำเร็จจากเทพเจ้าเทนจิน (เทพเจ้าแห่งปัญญา) กันเป็นจำนวนมาก และในทุกวันที่ 24-25 กรกฏาคมของทุกปี ศาลเจ้าแห่งนี้จะเป็นเจ้าภาพในการจัดเทศกาล Tenjin Matsuri ซึ่งจะมีผู้คนนับพันแต่งกายด้วยชุดโบราณร้องรำทำเพลงไปทั่วเมือง และล่องเรือไปทั่วแม่นํ้าโอกาวะ เป็นภาพที่สวยงามและตื่นตาตื่นใจแก่นักท่องเที่ยว ที่นี่สามรถเดินทางมาได้สะดวกด้วยรถไฟใต้ดินมาที่สถานี Minami morimachi และเดินต่อมาอีกประมาณ 5 นาทีเท่านั้น
เช็กอินเที่ยวโอซาก้าทั้งที ต้องเช็กให้ชัวร์ว่าเที่ยวเดือนไหนโดนใจ ฟินได้สุด!
โอซาก้าเที่ยวได้ทั้งปี โดยสามารถแบ่งชัด ๆ ออกเป็น 4 ช่วงเวลาให้เลือกเที่ยว
ฤดูหนาว(ธันวาคม - กุมภาพันธ์): เดือนมกราที่หนาวเย็นได้ฟีลหิมะตกพอสวยงาม ไฮไลท์เด็ดเลยต้องยกให้เทศกาลการประดับไฟฤดูหนาวของปราสาทโอซาก้ายามค่ำคืน
ฤดูใบไม้ผลิ(มีนาคม - พฤษภาคม): จัดว่าเป็นไฮซีซั่นแห่งการไปเยือนโอซาก้า เพราะกำลังเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิที่อากาศเย็นสบาย และเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ไม้นานาพรรณทั้งซากุระ ท้อ และบ๊วย ได้เวลาบานสะพรั่งชูช่อไปทั่วทั้งเมือง
ฤดูร้อน(มิถุนาคม - สิงหาคม): อากาศจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น อบอุ่นไปจนร้อนพอ ๆ กับบ้านเรา ในฤดูนี้มีเทศกาลฤดูร้อน และงานแสดงดอกไม้ไฟละลานตาให้ดื่มด่ำยามค่ำคืน
ฤดูใบไม้ร่วง(กันยายน - พฤศจิกายน)): สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ จะถูกแต่งแต้มด้วยใบไม้เปลี่ยนสีเป็นเหลืองอมแดง นับเป็นสัญญาณส่งท้ายปีเก่าที่ธรรมชาติบอกให้เราเตรียมพร้อมการเปลี่ยนแปลงฤดูอีกครั้ง ทั้งนี้ โอซาก้า และเมืองใกล้เคียงในภูมิภาคคันไซอย่าง นาระ และเกียวโต ล้วนเป็นปลายทางในฝันสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากซึมซับมรดกวัฒนธรรมไปพร้อมกับใบไม้เปลี่ยนสี
จะเห็นได้ว่า “โอซาก้า” เป็นอีกเมืองที่เต็มไปด้วยสีสันและท่องเที่ยวได้ทุกฤดู พร้อมเสริมความปังตลอดการเดินทางด้วยแผนประกันการเดินทางต่างประเทศ คุ้มครองตั้งแต่ก้าวแรกที่ออกจากบ้านจนจบทริป แต่ครอบคลุมเกินกว่าคำว่าคุ้มค่า ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับบรรยากาศแสนสนุกของโอซาก้า แล้วจะพบว่าช่วงเวลาแห่งความสุขและอบอุ่นหัวใจช่างผ่านไปไวเหลือเกิน
สนใจประกันภัยการเดินทาง โทร. 0 2611 4242