10 ประเทศน่าเที่ยวยุโรป ประเทศไหนดี ขอวีซ่าเชงเก้นอย่างเดียวก็เที่ยวได้

คงไม่ผิดนักหากจะกล่าวว่า ยุโรปเป็นทริปในฝันของคนทั่วโลก เพราะเป็นดินแดนที่รุ่มรวยด้วยอารยธรรมเก่าแก่ของโลก ประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ สถาปัตยกรรม ศิลปวัฒนธรรม รวมถึงบ้านเกิดของศิลปินชื่อดังระดับโลก หลายเมืองยังเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างเมืองเทพนิยายและเมืองเวทมนตร์ที่หลายคนประทับใจ ชับบ์คัดเลือก 10 ประเทศน่าเที่ยวยุโรป ประเทศไหนดี แค่มีวีซ่าเชงเก้นอย่างเดียวก็เที่ยวได้ สำคัญสุดจะเที่ยวยุโรปให้มีความสุขต้องมีประกันเดินทางต่างประเทศของชับบ์ (Chubb Travel Insurance) ติดตัวไว้ เพื่อความอุ่นใจในทุกเส้นทาง 

เดนมาร์ก (Denmark)

ประเทศที่มีเสน่ห์แห่งหนึ่งในยุโรปเหนือและ “กลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย” (Scandinavia) เดนมาร์กขึ้นชื่อเรื่องอาคารหลากสีสันริมแม่น้ำและอาหารที่มีเสน่ห์ ส่วนเมืองยอดนิยมต้อง “โคเปนเฮเกน” (Copenhagen) เมืองหลวงของเดนมาร์กที่มีพระราชวังอันงดงามถึง 3 แห่ง ได้แก่ “พระราชวังอมาเลียนบอร์ก” (Amalienborg Palace) หรือพระราชวังฤดูหนาวริมน้ำ “พระราชวังโรเซนเบิร์ก” (Rosenborg Palace) หรือพระราชวังฤดูร้อนที่เก็บรักษาสมบัติล้ำค่าของชาติไว้ครบ และ “พระราชวังคริสเตียนบอร์ก” (Christiansburg Palace) พระราชวังที่สวยงามและยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเดนมาร์ก แล้วยังมี “โบสถ์เฟรเดอริก” (Frederik’s Church) โบสถ์หินอ่อนสไตล์โรโกโกที่ใหญ่ที่สุดในแถบสแกนดิเนเวีย ย้อนวัยในสวนสนุกเก่าแก่อันดับ 2 ของโลกอย่าง “ทิโวลี การ์เดนท์” (Tivoli Gardens) ถ่ายภาพกับรูปปั้นเงือกน้อย (Little Mermaid) อันโด่งดัง แล้วไปตามหาของอร่อยริมแม่น้ำนูฮาวน์ (Nyhavn) บริเวณท่าเรือเก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ที่เนืองแน่นไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่เก๋ ๆ 

สวีเดน (Sweden)

อีกหนึ่งจุดหมายปลายทางยอดนิยมของการไปเที่ยวยุโรปเหนือ สวีเดนเป็นประเทศที่มีชีวิตชีวา สุขสงบ และสถาปัตยกรรมน่าทึ่งมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “ปราสาทโดรทนิงโฮล์ม” (Drottningholm Palace) ปราสาทที่สวยงามแห่งศตวรรษที่ 16 ถึงขนาด UNESCO ยกให้เป็นมรดกโลก ย่านเมืองเก่า “กัมลาสแตน” (Gamla Stan) ที่ยังคงอนุรักษ์อาคารบ้านเรือนในศตวรรษที่ 17 ไว้อย่างสมบูรณ์แบบ ชมสมบัติล้ำค่ามากมายภายใน “พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ” (Swedish Museum of National Antiques) ที่เลื่องชื่อด้วย “ห้องสีทอง” (Guldrummet) สวยงามออร่าพุ่งเพราะแสดงเฉพาะเครื่องเรือนที่ทำจากทองคำและเงินเท่านั้น แล้วดื่มด่ำกับวัฒนธรรมป็อปที่ “พิพิธภัณฑ์ ABBA” (ABBA The Museum) ที่ที่คุณจะได้ซึมซับวัฒนธรรมดนตรีและเรื่องราวของศิลปินชื่อดังของโลก รวมถึงของสะสมหาชมยากของศิลปิน อย่างรางวัลแผ่นเสียงทองคำ และเสื้อผ้าหลากสีที่พวกเขาใส่ขึ้นคอนเสิร์ตอีกด้วย

ฟินแลนด์ (Finland)

ฟินแลนด์เป็นประเทศที่มีเมืองหลวงที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปเหนือคือ “เฮลซิงกิ” (Helsinki) เมืองที่มีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมเก่าแก่ ที่คุณจะสัมผัสได้จากการเดินเล่นใน “จัตุรัสซีเนท” (Senate) และมหาวิหารเก่าแก่ตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง แล้วนั่งเรือข้ามฟากไปเที่ยว “เกาะซัวเมนลินนา” (Suomenlinna) ชมป้อมปราการกลางทะเลขนาดใหญ่ที่สุดในโลกและมรดกโลกของ UNESCO ชื่นชมความสวยของโบสถ์แห่งความรัก “เทมเปลิโอคิโอ” (Temppeliaukio) โบสถ์ที่สร้างขึ้นในวันวาเลนไทน์ปี 1968 ฟินแลนด์เป็นดินแดนแห่งแสงเหนือที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก หลายคนจึงไม่พลาดการนอนชมแสงเหนือที่เมือง “แลปแลนด์” (Lapland) และย้อนวัยไปกับโลกแห่งจินตนาการที่ “หมู่บ้านซานตาครอส” (Santa Crous Village) ตามหาลุงแซนต้าและสนุกกับของเล่นมากมาย ท้าทายลมหนาวใน “เคมิ” (Kemi) เมืองที่สถาปัตยกรรมหลายอย่างสร้างจากน้ำแข็ง ไม่ว่าจะเป็นปราสาท โบสถ์ ร้านอาหาร คาเฟ่ และสัมผัสประสบการณ์ล่องเรือตัดน้ำแข็งในทะเลบอลติกที่หนาวเย็น เตรียมเสื้อกันหนาวให้พร้อมแล้วออกตามล่าแสงเหนือและลุยกิจกรรมสนุก ๆ ของฟินแลนด์ได้เลย

นอร์เวย์ (Norway)

ประเทศที่มีชื่อเสียงด้านความสวยงามบริสุทธิ์ของธรรมชาติ นอร์เวย์มีภูเขาสูงและฟยอร์ดที่งดงามราวภาพศิลป์ คุณสามารถนั่งเรือชมทิวทัศน์ของฟยอร์ด น้ำตกที่หนาวเย็นจนเป็นน้ำแข็ง และแนวชายฝั่งที่แสนบริสุทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก หนึ่งในฟยอร์ดที่ได้รับความนิยมอย่างมากคือ “ซองน์ฟยอร์ด” (Sognefjord) เจ้าของฉายา “King of Fjord” ฟยอร์ดที่ใหญ่ที่สุดในนอร์เวย์และมีความยาวเป็นอันดับ 2 ของโลก นอกจากความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ เมืองต่าง ๆ ยังถือเป็นไฮไลต์ของประเทศนอร์เวย์ เช่น ออสโล (Oslo) เมืองหลวงที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ เบอร์เกน (Bergen) เมืองมรดกโลกท่ามกลางหุบเขาและสายน้ำ ทรอนด์ไฮม (Trondheim) สวรรค์ของคนรักประวัติศาสตร์และเมืองที่สวยงามราวกับสวรรค์ นอร์เวย์จึงเป็นประเทศที่ผสมผสานวัฒนธรรมเก่าแก่เข้ากับความร่วมสมัยของเมืองได้อย่างลงตัว แล้วยังเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ของไวกิ้ง (Viking) ซึ่งไม่ว่าคุณจะเดินทางไปที่ใดในนอร์เวย์ คุณจะได้สัมผัสกับประสบการณ์แปลกใหม่ที่จะพาคุณย้อนกลับไปในยุคสมัยของไวกิ้ง

ออสเตรีย (Austria)

สำหรับคนที่หลงใหลในประวัติศาสตร์ ความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ และศิลปวัฒนธรรม ต้องไม่พลาดการไปเที่ยวออสเตรีย นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ใฝ่ฝันที่อยากจะไปเยือน “กรุงเวียนนา” (Vienna) เมืองหลวงที่สวยงามและอบอวลด้วยสถานที่สำคัญมากมาย เช่น พระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Place) พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace) และมหาวิหารเซนต์สตีเฟน (St.Stephen’s Cathedral) ส่วนเมืองท่องเที่ยวในฝันของคนรักธรรมชาติคือ “ซาลซ์บูร์ก” (Salzburg) สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Sound of Music (ปี 1965) เมืองที่มีความสวยงามของเทือกเขาแอลป์ (Alps) เป็นฉากหลัง ทั้งยังเป็นบ้านเกิดของโมซาร์ท (Mozart) คีตกวีเอกของโลก ส่วนเมืองเล็ก ๆ ในชนบทที่เงียบสงบและสวยงามราวภาพฝันคือ “เซล อัม ซี” (Zell am See) ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงริมทะเลสาบเซลล์ (Lake Zell) และอีกหนึ่งเมืองสวยที่คนทั่วโลกอยากมาเยือนสักครั้งในชีวิตอย่าง “ฮัลล์สัตทท์” (Hallstatt) เมืองชนบทริมทะเลสาบที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกจาก UNESCO โดยจุดเช็กอินยอดนิยมอยู่ที่โบสถ์ Evangelische Pfarrkirche Hallstatt และบ้านเมืองริมทะเลสาบที่สวยสุดของออสเตรีย

เยอรมนี (Germany)

ใครที่หลงใหลประวัติศาสตร์ต้องไม่พลาดเยอรมนี ประเทศที่อิฐทุกก้อนและสถานที่สำคัญต่าง ๆ ล้วนเก็บซ่อนความลับมากมาย ความสวยงามของปราสาทเก่าแก่และสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ของเยอรมันเป็นแรงบันดาลใจให้กับเทพนิยายและหนังแนวพีเรียตหลายเรื่อง อาทิ “ปราสาทนอยชวานชไตน์” (Neuschwanstein Castle) ปราสาทเก่าแก่แห่งศตวรรษที่ 18 ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเป็นต้นแบบของปราสาทเจ้าหญิงนิทรา (Sleeping Beauty) ในสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ “โรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์” (Rothenburg ob der Tauber) หรือ “โรเธนเบิร์ก” เมืองโบราณที่สวยงามจากยุคกลางแห่งแคว้นบาวาเรีย (Bavaria) ที่ยังคงอนุรักษ์สถาปัตยกรรมกอทิกและเรเนซองส์ไว้อย่างสมบูรณ์ “พระราชวังเรสซิเดนซ์ มิวนิค” (Residenz Munchen) พระราชวังเก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี รวมถึงเป็นที่ประทับทรงงานของกษัติรย์แห่งแคว้าบาเยิร์นมากว่า 500 ปี มาถึงเยอรมนีแล้วต้องไม่พลาดลิ้มลองไส้กรอกและเบียร์พื้นเมืองที่มีให้เลือกมากมาย ขอแค่คุณเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับอาหารอร่อย ๆ และดื่มเบียร์ให้เก่งเป็นพอ

สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland)

ดินแดนในฝันของคนรักธรรมชาติที่สวยงามราวกับสรวงสวรรค์ ไปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ต้องไม่พลาดการนั่งรถไฟ Bernina Express ผ่านเทือกเขาแอลป์ ช่วงเวลาที่คุณจะได้สัมผัสความสวยงามของธรรมชาติที่น่าจดจำ ทั้งยอดเขาสูงชันที่ปกคลุมด้วยหิมะ ธารน้ำแข็ง และทะเลสาบที่ใสบริสุทธิ์ สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่าง “ยอดเขาจุงเฟรา” (Jungfrau) ที่ได้รับการขนานนามว่า “Top of Europe” และสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป “สะพานไม้ชาเปล” (Chapel Bridge) สะพานไม้ดีไซน์สวยที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก “หอระฆังซิทกล็อด” (Zytglogge Clock Tower) หรือ “หอนาฬิกาดาราศาสตร์” หอนาฬิกาใหญ่แห่งกรุงเบิร์นที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1530 ทุกชั่วโมงจะมีเสียงระฆังกังวานใสและตุ๊กตาไม้น่ารัก ๆ ผลัดกันอวดโฉมให้นักท่องเที่ยวชื่นชม รวมถึง “มหาวิหารแห่งโลซานน์” (Cathédrale Notre-Dame de Lausanne) ที่งดงามด้วยกระจกสีและสถาปัตยกรรมแบบกอทิก การเดินทางไปสวิตเซอร์แลนด์ของคุณจะไม่สมบูรณ์แบบ หากไม่ได้ดื่มด่ำกับช็อคโกแลตและชีสอันโด่งดังแห่งเมืองลูเซิร์น  

อิตาลี (Italy)

มนต์เสน่ห์ของอิตาลีไม่เหมือนที่ใดในโลก ประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมแห่งหนึ่งของยุโรปใต้ แทบทุกตารางนิ้วของอิตาลีเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์แห่งอารยธรรมโรมัน รุ่มรวยด้วยศิลปะ สถาปัตยกรรม อาหารรสเลิศ ไวน์ และความโรแมนติกของมุมเมือง อิตาลีผสมผสานความเก่าแก่ของอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่เข้ากับความร่วมสมัยได้อย่างน่าทึ่ง ทั้งยังเป็นศูนย์กลางของแฟชั่นและศิลปะหลายแขนง ไปถึงอิตาลีแล้วต้องชื่นชมผลงานของ “มีเกลันเจโล” (Michelangelo) ศิลปินชื่อดังแห่งยุคเรเนซองส์ที่ Galleria dell'Accademia เยี่ยมชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ทั้ง “โคลอสเซียม” (Colosseum) “มหาวิหารแพนธีออน” (Pantheon) “น้ำพุเทรวี” (Trevi Fountain) “นครรัฐวาติกัน” (Vatican City) ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของคริสตจักรและ “มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์” (St. Peter’s Basilica) มหาวิหารเก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 แน่นอนคุณต้องไม่พลาด “เวนิส” (Venice) เจ้าของฉายา “ราชินีแห่งทะเลอาเดรียติก” (The Queen of the Adriatic) หรือ “เมืองแห่งสายน้ำ” (City of Water) จิบไวน์ผ่อนคลายบนเรือกอนโดลา (Gondola) ชมความโรแมนติกของเมืองในฝันสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก

โครเอเชีย (Croatia)

โครเอเชียเป็นสวรรค์ของคนรักทะเลและเต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติมากมาย จุดหมายในฝันของนักเดินทางคือ “หมู่เกาะเอลาฟิตี” (Elaphiti) ที่ที่คุณจะได้เพลิดเพลินกับความสวยงามของทะเลเอเดรียติก (Adriatic Sea) ล่องเรือสำรวจเกาะต่าง ๆ และตื่นตาตื่นใจไปกับน้ำทะเลสีครามใสสะอาด หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต้อง “อุทยานแห่งชาติทะเลสาบพลิทวิเซ่” (Plitvice Lakes National Park) มรดกโลกแห่งโครเอเชียที่มีน้ำตกขนาดใหญ่ถึง 16 ชั้น ทั้งยังมีสัตว์ป่าหลากหลายสายพันธุ์และเป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติที่ได้รับการคุ้มครองโดยทางการออสเตรีย-ฮังการี อีกหนึ่งเมืองริมทะเลที่สวยงามไม่แพ้กันคือ “ฮวาร์” (Hvar Town) เมืองเก่าแก่ที่สุดในโครเอเชียที่ยังคงอนุรักษ์สถาปัตยกรรมแบบกรีกไว้แทบทุกกระเบียดนิ้ว รวมถึง “โรวินจ์” (Rovinj) หนึ่งในเมืองที่งดงามที่สุดในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และเป็นเมืองตากอากาศชื่อดังของโครเอเชีย ประเทศนี้เลื่องชื่อด้วยเนื้อหมัก น้ำมันมะกอก แยมผิวส้ม ชีส อาหารเมดิเตอร์เรเนียน และไวน์พื้นเมือง นั่นทำให้การไปเที่ยวโครเอเชียคู่ควรกับการจิบไวน์ เพลินกับอาหารทะเลสด แล้วปลดปล่อยจินตนาการไปกับการล่องเรือที่แสนจะผ่อนคลาย 

ตุรเคีย (Turkey)

ใครอยากเที่ยวยุโรปในงบ 30,000++ บาทต้องไม่พลาดตุรกี (ตุรเคีย) ดินแดนสองทวีปที่หลอมรวมอารยธรรมโบราณและประวัติศาสตร์ของยุโรปและเอเชียเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างสง่างาม และเป็นประเทศในฝันที่คุณควรไปเที่ยวตุรกีสักครั้งในชีวิต ตุรกีมีสถาปัตยกรรมสวย ๆ ให้ชื่นชมมากมาย สายถ่ายรูปต้องถ่ายภาพคู่กับบอลลูนที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าเป็นฉากหลังสุดโรแมนติกยามพระอาทิตย์ตกดินที่เมือง “แคปพาโดเซีย” (Cappadocia) คนที่ชอบซึมซับประวัติศาสตร์ก็มีให้เลือกทั้งเมืองกรีกโบราณ “เอฟิซุส” (Ephesus) มีความอลังการใหญ่เป็นอันดับสองรองจากโรมในสมัยโรมัน “ฮิปโปโดรม” (Hippodrome) สนามแข่งม้าที่จุผู้ชมได้มากกว่า 1 แสนคน ในสมัยนครคอนสแตนติโนเบิลเฟื่องฟู ส่วนสายธรรมชาติต้องประทับใจ “น้ำตกเกลือปามุคคาเล่” (Pamukkale) เจ้าของฉายา “ปราสาทปุยฝ้าย” ที่ให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในดินแดนเทพนิยาย ปิดท้ายสายช็อปที่ “Grand Bazar” ตลาดเก่าแก่ที่มีความเป็นมายาวนานกว่า 1,500 ปี แหล่งรวมของฝากจากตุรกีไว้ครบในที่เดียว ของฝากที่พลาดไม่ได้คือเซ็ตน้ำชา ขนมพื้นเมือง และพรมสวย ๆ ไว้ประดับบ้าน

ยุโรปยังมีประเทศสวย ๆ ที่รุ่มรวยด้วยประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมให้เดินทางมากมาย แต่จะเที่ยวให้อุ่นใจและคลายกังวลจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้น เช่น กระเป๋าหาย สายการบินดีเลย์ เจ็บป่วยระหว่างเดินทาง ฯลฯ คุณต้องซื้อประกันเดินทางต่างประเทศของชับบ์ (Chubb Travel Insurance) ให้ตัวเองและเพื่อนร่วมทริป สอบถามข้อมูลการคุ้มครองประกันภัยได้ที่โทร.0 2611 4242