

คัดแล้วว่าเด็ด! 10 ที่เที่ยวฮอกไกโดและกิจกรรมสนุก ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิต
ชวนคนรักลมหนาวและธรรมชาติออกเดินทางสู่ “เกาะฮอกไกโด” ประเทศญี่ปุ่น เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเกาะฮอนชู โอบล้อมด้วยภูเขาสูง อากาศเย็นสบายตลอดปี และมีหิมะปกคลุมนานหลายเดือน ทำให้การท่องเที่ยวฮอกไกโดเป็นจุดหมายปลายทางของคนรักหิมะ สกีรีสอร์ต และเทศกาลหิมะที่มีชื่อเสียงระดับโลก ชับบ์ ชวนคุณไปท้าทายความหนาวเย็นใน 10 ที่เที่ยวยอดนิยมของฮอกไกโด เจ้าของฉายา “สวรรค์แห่งฤดูหนาว” (Winter Wonderland) ที่คนทั่วโลกตกหลุมรัก!
1. บ่อน้ำสีฟ้า (Blue Pond หรือ Aoiike)

สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและมีชื่อเสียงที่สุดของฮอกไกโด บ่อน้ำที่เกิดจากการสร้างเขื่อนเพื่อป้องกันโคลนถล่มจากภูเขาไฟโทคาจิ (Mount Tokachi) ตั้งอยู่ในเมืองบิเอะ (Biei) โดยฉายา “Aoiike” หรือ “บ่อน้ำสีฟ้า” มาจากน้ำบริสุทธิ์ที่มีสีฟ้าใสอย่างน่าอัศจรรย์ สีฟ้าของน้ำเกิดจากอนุภาคคอลลอยด์ของอะลูมิเนียมไฮดรอกไซด์ที่อยู่ในน้ำสะท้อนแสงสีฟ้าออกมา โดยสีของน้ำจะเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพอากาศ รายล้อมด้วยทัศนียภาพที่สวยงามทางธรรมชาติ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว บ่อน้ำจะกลายเป็นลานน้ำแข็งสีขาวสะอาดตา มีการประดับไฟในช่วงกลางคืน ทำให้เกิดเป็นภาพที่สวยงามตราตรึง
- พิกัด: https://maps.app.goo.gl/3LrPjvsUom4a8JZw7
- การเดินทาง: นั่งรถบัส Dohoku Bus Biei – Shirogane จากสถานี Biei ลงป้าย Blue Pond Entrance ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที จากนั้นเดินเท้าต่อไปยังบ่อน้ำอีกประมาณ 7-8 นาที
- เวลาเปิด: เดือนพฤษภาคม – ตุลาคม เวลา 7.00 - 19.00 น. และ พฤศจิกายน - เมษายน เวลา 8.00-21.30 น.
2. น้ำตกหนวดขาว “ชิราฮิเกะ” (Shirahige Waterfall)

ไม่ไกลจากบ่อน้ำสีฟ้ามี “น้ำตกชิราฮิเกะ” เป็นต้นน้ำของบ่อน้ำสีฟ้าและมีสะพาน “Blue River Bridge” ให้ข้ามไปชมความงดงามของสายน้ำสีฟ้า หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและมีชื่อเสียงที่สุดของฮอกไกโด น้ำตกแห่งนี้เกิดจากธารน้ำใต้ดินจากเทือกเขาโทคาจิ (Mount Tokachi) ไหลจากหน้าผาสูงชันลงสู่แม่น้ำบิเอะเบื้องล่าง เมื่อสายน้ำสีขาวนวลไหลลงมาผสมกับน้ำในแม่น้ำเกิดเป็นสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ที่สวยงามแปลกตา ด้วยลักษณะของน้ำตกที่ดูคล้ายหนวดเคราสีขาวจึงเป็นที่มาของชื่อ "ชิราฮิเกะ" แปลว่า "หนวดขาว" ในภาษาญี่ปุ่นนั่นเอง
- พิกัด: https://maps.app.goo.gl/xzdtDBr3V7vWMUP1A
- การเดินทาง: นั่งรถบัส Dohoku Bus Biei – Shirogane จากสถานี Biei ลงป้าย Shirogane Onsen
3. ทะเลสาบชิโกะซึ (Lake Shikotsu)

“ชิโกะซึ” เป็นทะเลสาบบริเวณปล่องภูเขาไฟที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง และเป็นทะเลสาบที่ใสสะอาดที่สุดของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติชิโกะซึ-โทยะ (Shikotsu-Toya National Park) โอบล้อมด้วยภูเขาไฟ 3 แห่ง คือ ภูเขาเอนิวะ (Mount Eniwa) ภูเขาฟุปปุชิ (Mount Fuppushi) และภูเขาทารุมาเอะ (Mount Tarumae) คุณสามารถพายเรือคายัคชมความสวยงามของผืนน้ำใสสะอาดราวกระจก ล่องเรือชมความสวยงามของธรรมชาติ หรือเดินป่าได้อย่างปลอดภัย ภายใต้คำแนะนำและการดูแลของเจ้าหน้าที่ ในช่วงฤดูหนาวจะมี “เทศกาลน้ำแข็งชิโกะซึ” (Lake Shikotsu Ice Festival) จัดแสดงประติมากรรมน้ำแข็งหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะในยามค่ำคืนจะมีการประดับด้วยไฟหลากสีสันเป็นภาพที่สวยงามและน่าประทับใจสุด ๆ
- พิกัด: https://maps.app.goo.gl/hv81JzmyEmcUvtbm8
- การเดินทาง: นั่งรถบัสจากสถานี Chitose Station หรือสนามบิน New-Chitose ลงป้าย Shikotsuko
4. หุบเขานรกโนโบริเบ็ทสึ (Noboribetsu)

“หุบเขานรกจิโงคุดานิ” (Jigokudani) เป็นหุบเขาที่มีชื่อเสียงในเมืองโนโบริเบ็ตสึ (Noboribetsu) ฮอกไกโด หุบเขาแห่งนี้มีล้อมรอบไปด้วยภูเขาไฟและมีควันกำมะถันพวยพุ่งออกมาจากพื้นดิน เกิดเป็นทัศนียภาพที่สวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจในเวลาเดียวกัน ราวกับเดินเข้าไปในขุมนรกทั้งที่ยังมีลมหายใจ จึงเป็นที่มาของความเชื่อว่า เมืองนี้ถูกปกครองโดยปีศาจ ถึงกับจัดให้มี “เทศกาลแห่งนรก” (Noboribetsu Hell Festival) ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมของทุกปี มีการแสดงตีกลองไทโกะที่ทรงพลังและขบวนแห่เอ็นมะ (Enma Daio) บริเวณย่านออนเซ็นโนโบริเบ็ตสึ (Noboribetsu Onsen) แล้วเมืองนี้ยังเป็นเมืองออนเซ็นชั้นเลิศที่มีน้ำพุร้อนเปี่ยมด้วยแร่ธาตุ ให้คุณผ่อนคลายกับการแช่ออนเซ็นท่ามกลางวิวหุบเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวสะอาดตา
- พิกัด: https://maps.app.goo.gl/rcNdhLKm1N1uW9TM9
- การเดินทาง : นั่งรถบัส Donan จากสถานี JR Noboribetsu ลงสถานี Noboribetsu Onsen จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 600 เมตร
5. โรงงานช็อกโกแลตชิโรอิโคอิบิโตะ (Shiroi Koibito Park)

ตื่นตาตื่นใจไปกับโลกแห่งช็อกโกแลตราวกับมีเวทมนตร์ ให้ความรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในภาพยนตร์ “Charlie and The Chocolate Factory” สวนสนุกธีมโรงงานช็อกโกแลตแห่งเมืองซัปโปโร สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่คนรักช็อกโกแลตและครอบครัว โรงงานช็อกโกแลตแห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดังมาจาก “คุกกี้ชิโรอิโคอิบิโตะ” (Shiroi Koibito) ที่เปิดให้เข้าชมกระบวนการผลิตอย่างไม่เป็นความลับ นำโดย “ด็อกเตอร์จูเลียน แดนดิโน อิชมิตตี” ผู้หลงใหลในช็อกโกแลต และ “พรูมีกับรามุล” เทพยดาแห่งช็อกโกแลต พร้อมร่วมเวิร์กช็อปตกแต่งคุกกี้ชิโรอิโคอิบิโตะในแบบของตัวเอง แล้วยังมีหอนาฬิกากลไก ที่มีเหล่าสัตว์มาเดินพาเหรดให้ชมกันทุกวัน รถไฟนำเที่ยวชิโรอิโคอิบิโตะ สวนกุหลาบสไตล์อังกฤษ และร้านขนมมากมาย
- พิกัด: https://maps.app.goo.gl/pqRieG4X4eSgTo2RA
- การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย Tozai Line ลงสถานี Miyanosawa จากนั้นเดินต่อประมาณ 500 เมตร
- เว็บไซต์: https://www.shiroikoibitopark.jp/en/
6. สกีรีสอร์ตระดับโลก (Ski Resort)

ฮอกไกโดเป็นสวรรค์ของนักเล่นสกีและผู้ที่ชื่นชอบกีฬาฤดูหนาว เพียบพร้อมไปด้วยสกีรีสอร์ทให้เลือกเช็กอินมากมาย โดย ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเล่นสกีในฮอกไกโด คือเดือนธันวาคม - มีนาคมของทุกปี โดยเฉพาะเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ที่มีหิมะตกหนักและสวยงามที่สุด รีสอร์ทที่ครองใจนักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องยกให้รุสุสึ (Rusutsu) สกีรีสอร์ตนาดใหญ่ที่มีกิจกรรมให้เลือกสนุกมากมาย ฟุราโนะ (Furano) สกีรีสอร์ตที่เคยใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันสกีระดับโลก ท่ามกลางทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขาโทคาจิ (Tokachi) และนิเซโกะ (Niseko) สกีรีสอร์ตที่มีชื่อเสียงระดับโลก ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพของหิมะและทิวทัศน์ที่งดงาม หรือจะสนุกกับการขี่เลื่อนสุนัขก็มอบประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับชีวิต
- เช็คลิสต์ สกีรีสอร์ท: https://www.japan.travel/en/sports/snow/hokkaido/ski-resorts/
7. ล่องเรือคลองโอตารุ (Otaru Canal)

หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในฮอกไกโด ตั้งอยู่ในเมืองโอตารุ (Otaru) อดีตเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่งของฮอกไกโด คลองแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1923 เพื่อใช้เป็นเส้นทางขนส่งสินค้าไปยังโกดังต่าง ๆ ริมคลอง ทำให้คลองโอตารุมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของเมืองเก่าแห่งนี้เป็นอย่างมาก ทว่าเมื่อการขนส่งทางเรือลดความสำคัญลงคลองโอตารุจึงได้รับการปรับปรุงให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ โดยยังคงรักษาสถาปัตยกรรมเก่าแก่ไว้อย่างมีเอกลักษณ์ ก่อนจะปรับเปลี่ยนเป็นร้านค้า คาเฟ่เก๋ ๆ และร้านอาหารมากมาย พร้อมบริการล่องเรือชมความสวยงามของทิวทัศน์สองฝั่งคลอง ที่ไหลผ่านใจกลางเมืองเก่าได้อย่างเพลิดเพลินตลอดทั้งวัน
- พิกัด: https://maps.app.goo.gl/Te34ixne9XmvEQTy9
- การเดินทาง: นั่งรถไฟไปลงสถานี Otaru จากนั้นเดินต่อประมาณ 900 เมตร
8. กระเช้าลอยฟ้า ภูเขาฮาโกดาเตะ (Mt. Hakodate Rope way)

“ฮาโกดาเตะ” เป็นเมืองท่าที่มีเสน่ห์ทางตอนใต้ของเกาะฮอกไกโด เมืองที่มีชื่อเสียงด้านทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สวยงาม อาหารทะเลสดใหม่ และสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างตะวันตกและญี่ปุ่นได้อย่างมีสไตล์ ใครมาถึงฮาโกดาเตะแล้วต้องไม่พลาดขึ้นกระเช้าลอยฟ้าไปบนจุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเมืองฮาโกดาเตะได้แบบพานอรามา ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสามวิวกลางคืนที่สวยที่สุดในโลก โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตกดินจนถึงหัวค่ำ ที่จะได้เห็นแสงไฟจากเมืองเป็นเส้นโค้งระหว่างช่องแคบสึงารุและท่าเรือฮาโกดาเตะ จากจุดนี้ให้คะแนนความโรแมนติกเต็มร้อย!
อย่าลืมแวะถ่ายรูปกับอาคารสไตล์ตะวันตก โบสถ์ออร์โธดอกซ์ฮาโกดาเตะ (Hakodate Orthodox Church) และอาคารอดีตศาลากลางฮาโกดาเตะ (Old Public Hall of Hakodate Ward) ที่โมโตมาจิ (Motomachi) ย่านที่พักอาศัยของชาวต่างชาติในอดีต รวมถึงเดินเล่นชิลล์ ๆ ริมคลองคาเนโมริ (Kanemori Red Brick Warehouse) ถ่ายรูปรัว ๆ กับโกดังอิฐแดงเก่าแก่ที่ได้รับการปรับปรุงให้เป็นร้านค้า ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์ของเมือง
- พิกัด: https://maps.app.goo.gl/2mxebb5gGqHXq13y6
- การเดินทาง: นั่งรถรางลงที่สถานี Jujigai แล้วเดินราว 10 นาที ไปยัง Sanroku Eki-mae แล้วขึ้นกระเช้าลอยฟ้า หรือขึ้นรถ Shuttle Bus สาย Mt. Hakodate Rope Way ไปยัง Sanroku Eki-mae แล้วขึ้นกระเช้าลอยฟ้า
9. เทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival)

เทศกาลกระท่อมหิมะที่โด่งดังที่สุดในฮอกไกโด ต้องยกให้ “เทศกาลหิมะซัปโปโร” ซึ่งจัดขึ้นในเมืองซัปโปโร เทศกาลที่มีชื่อเสียงนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ให้มาสัมผัสความงามของประติมากรรมหิมะและน้ำแข็งอันตระการตา โดยมีต้นกำเนิดมาจากประติมากรรมหิมะฝีมือของนักเรียนมัธยมในซัปโปโร 6 ชิ้น ในสวนโอโดริ (Odori Park) เมื่อปี ค.ศ. 1950 ก่อนจะพัฒนาเป็นเทศกาลขนาดใหญ่ในปัจจุบัน จัดขึ้นใน 3 สถานที่หลัก ได้แก่ สวนโอโดริ (Odori Park), ซูซูกิโนะ (Susukino), และสึโดม (Tsudome)
โดยทั่วไปจะจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศหนาวเย็นและมีหิมะหนาที่สุดในฮอกไกโด นอกจากนี้ ฮอกไกโดยังมีเทศกาลฤดูหนาวอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น เทศกาลน้ำแข็งโซอุนเคียว (Sounkyo Ice Fall Festival) และเทศกาลทะเลสาบชิคาริเบ็ทสึโคตัน (Lake Shikaribetsu Kotan) ใครชอบงานศิลปะท่ามกลางหิมะโปรยปราย เทศกาลหิมะซัปโปโรคือจุดหมายปลายทางที่ห้ามพลาดของคุณ!
- การเดินทาง: ในช่วงเทศกาลจะมีรถบัสพิเศษให้บริการระหว่างสถานที่จัดงานต่าง ๆ ทำให้เดินทางสะดวกสบาย
- เว็บไซต์: https://www.japan-guide.com/e/e5311.html
10. ล่องเรือตัดน้ำแข็งครั้งหนึ่งในชีวิต
ด้วยความที่ฮอกไกโดตั้งอยู่ทางทิศใต้ของขั้วโลกเหนือ ในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคมของทุกปี เลยมีปรากฏการณ์ธารน้ำแข็งที่ไหลมาจากไซบีเรีย ผ่านทะเลโอค็อตสค์ (The Sea of Okhotsk) มาลอยอยู่เหนือผิวทะเลโอะโฮสึคุ (Ohōtsuku) ให้นักท่องเที่ยวได้ล่องเรือชมความสวยงามของทะเลที่ปกคลุมด้วยแผ่นน้ำแข็ง พร้อมให้บริการเรือเที่ยวพิเศษที่ท่าเรือตัดหิมะในเมืองอะบะชิริ (Abashiri) และเมืองมอมเบทสึ (Mombetsu) ตลอดการล่องเรือจะได้ยินเสียงแผ่นน้ำแข็งที่ถูกเรือกระแทกตัดออกเป็นเสี่ยง ๆ สร้างความตื่นตาตื่นใจและประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการท่องเที่ยว แล้วถ้าคุณโชคดีอาจได้เห็นสัตว์จากทะเลฝั่งตอนเหนืออย่างเจ้าแมวน้ำลายจุดอีกด้วย
เที่ยวฮอกไกโด ด้วยตัวเอง: บินตรงจากกรุงเทพฯ ได้เลย
ปัจจุบัน มีเที่ยวบินตรงจากประเทศไทยไปสนามบินนิวชิโตเสะ (New Chitose Airport) ซัปโปโร เมืองหลวงของฮอกไกโด ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง จากนั้นสามารถนั่งรถไฟ JR จากสนามบินฯ เข้าไปในตัวเมืองซัปโปโรได้เลย โดยรถไฟจะออกทุก 15 นาที ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40-45 นาที หรือใช้บริการรถบัสเข้าเมืองซัปโปโรใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง รถจะออกจากสนามบินทุก 10 – 15 นาที และใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง หรือเดินทางไปยังเมืองท่องเที่ยวใกล้ซัปโปโรจากสนามบินนิวชิโตเสะได้เช่นกัน (สถานีรถบัสอยู่ชั้น 1F)
**Tips: แนะนำให้ซื้อตั๋ว JR Hokkaido Rail Pass สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อช่วยประหยัดค่าเดินทาง
เที่ยวฮอกไกโด เดือนไหนดี?
ด้วยสภาพอากาศเย็นสบายตลอดปี ทำให้ฮอกไกโดเป็นเมืองขายดีในทุกซีซั่นเลยก็ว่าได้ ไฮไลท์อยู่ที่ฤดูหนาวที่รายล้อมไปด้วยหิมะขาวและความหนาวเย็น ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนมีนาคมของทุกปี ส่วนคนที่ชอบอากาศหนาวเป็นพิเศษช่วงเดือนมกราคมของทุกปีดูจะตอบโจทย์คุณที่สุด เพราะอุณหภูมิอาจจะลงไปอยู่ต่ำกว่า -10 องศาฯ โดยฮอกไกโดมี 4 ฤดูกาลที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ซึ่งแต่ละฤดูกาลก็มีเสน่ห์และความสวยงามที่แตกต่างกันไป นั่นคือ
- ฤดูใบไม้ผลิ (Spring): เดือนเมษายน - พฤษภาคมของทุกปี เป็นฤดูกาลที่ดอกซากุระบานสะพรั่งทั่วทั้งเกาะ ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นประมาณ 5-15 องศาเซลเซียส ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการชมธรรมชาติและเดินป่า
- ฤดูร้อน (Summer): เดือนมิถุนายน - สิงหาคมของทุกปี อุณหภูมิเฉลี่ย 20-30 องศาฯ ให้คุณชื่นชมทุ่งดอกไม้ผลิบานหลากสีสัน ท่ามกลางอากาศอุ่นสบายกำลังดี แล้วยังมีเทศกาลดอกไม้ไฟที่น่าตื่นตาตื่นใจหลายงานอีกด้วย
- ฤดูใบไม้ร่วง (Autumn): เดือนกันยายน – พฤศจิกายนของทุกปี ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามทั่วเกาะฮอกไกโด อุณหภูมิเฉลี่ย 10-20 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับคนรักการแช่ออนเซ็น
- ฤดูหนาว (Winter): เดือนธันวาคม – มีนาคมของทุกปี ช่วงเวลาที่หนาวเย็นยะเยือกอุณหภูมิเฉลี่ย -10 ถึง 5 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับการเล่นสกี แช่ออนเซ็น และชมการประกวดประติมากรรมน้ำแข็ง
เพราะความโดดเด่นของการท่องเที่ยวฮอกไกโดคือ กิจกรรมสนุก ๆ และการผจญภัยสุดขั้วในฤดูหนาว จึงจำเป็นต้องพร้อมรับมือกับทุกเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ทั้งการเจ็บป่วยและอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิด ประกันภัยการเดินทางต่างประเทศจากชับบ์ (Chubb Travel Insurance) พร้อมดูแลและคุ้มครองคุณอย่างดีที่สุด ด้วยแผนประกันการเดินทางต่างประเทศที่เหมาะกับทุกเส้นทาง สนใจประกันภัยการเดินทาง โทร. 02 611 4242