นอกจากที่เที่ยวฝรั่งเศสในฝันอย่าง หอไอเฟล ประตูชัยแห่งฝรั่งเศส ฌ็องเซลิเซ่ และพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ เจ้าของฉายา “แดนน้ำหอม” ยังรุ่มรวยด้วยประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม แฟชั่น แชมเปญ ไวน์ และเมืองตากอากาศสุดหรูริมทะเล ทั้งยังเป็นหนึ่งใน Romantic Destinations ที่เรามักจะเห็นภาพใครสักคนคุกเข่าขอคนรักแต่งงานโดยมีหอไอเฟลเป็นฉากหลังที่แสนจะเพอร์เฟ็กต์ ชับบ์ ชวนคุณออกเดินทางไปฟินกับครัวซองต์เคล้ากลิ่นเอสเปรสโซ่ในยามเช้าตรู่ จิบไวน์หรูบนเลือร่องแม่น้ำแซนยามราตรี ชื่นชมงานศิลป์ในพิพิธภัณฑ์ แล้วสัมผัสความสวยงามของฝรั่งเศสที่เป็นบ้านเกิดและแรงบันดาลใจให้กับศิลปินระดับโลก
จากเมืองหลวงของฝรั่งเศส สู่มหานครแห่งศิลปะและแฟชั่นของโลก
ชื่อเสียงของ ‘ปารีส’ (Paris) ดังไกลไม่แพ้น้ำหอมของชาวปารีเซียง ปารีสเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับต้นของโลกที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวหลายล้านคนทุกปี ด้วยเมืองนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน สถาปัตยกรรมอันน่าทึ่ง และวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวาที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก เมืองหลวงของฝรั่งเศสมีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 2,000 ปี ย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยที่ชาวปารีซี่ (Parisii) ชนเผ่าเซลติกอพยพมาตั้งถิ่นฐานริมแม่น้ำแซนเมื่อราว 259 ปีก่อนคริสตกาล พวกเขายึดอาชีพชาวประมงเป็นหลัก ก่อนจะถูกยึดครองเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมันภายใต้ชื่อเมือง ‘ลูเตเทีย’ (Lutetia) และเปลี่ยนชื่อเป็นปารีสในช่วงศตวรรษที่ 4 มาจนถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ดี มีฉายามากมายที่ผู้คนทั่วโลกตั้งชื่อเล่นให้กับปารีส สำหรับแฟชันนิสต้าปารีสเป็นมหานครแห่งแฟชั่น ส่วนศิลปินและผู้คนในแวดวงศิลปะต่างก็มองว่าปารีสเป็นหนึ่งในเมืองหลวงแห่งศิลปะ ปารีสเปรียบเหมือนสวรรค์ของคนรักไวน์โลกเก่า (Old World Wines) และแชมเปญที่ดีที่สุดในโลก สำหรับคนรักอาหารอิตาเลียนและไวน์ ขึ้นอยู่กับว่าคุณเลือกที่จะสัมผัสปารีสในมุมมองไหน แต่ที่สำคัญปารีสได้กลายเป็นศูนย์กลางแห่งแฟชั่น ศิลปะ ความงาม ไวน์ แชมเปญ รวมไปถึง Dream Destination สถานที่โรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
เมื่อพูดถึงที่เที่ยวฝรั่งเศสหลายคนอาจจะนึกถึงหอไอเฟล ประตูชัย ฌ็องเซลิเซ่ ทุ่งลาเวนเดอร์ และพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ทว่าแท้จริงแล้วแดนน้ำหอมแห่งนี้เต็มไปด้วยเมืองน่าเที่ยวและสถานที่สวยงามราวเทพนิยายอีกหลายแห่ง แล้วยังเป็นบ้านเกิดของศิลปินและกวีเอกของโลกอีกด้วย ชับบ์ คัดเลือก 5 เมืองน่าเที่ยวฝรั่งเศสที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมเยือนสักครั้งในชีวิต
ที่เที่ยวฝรั่งเศสยอดนิยมตลอดกาล และเป็นเมืองหลวงของฝรั่งเศสที่มีนักท่องเที่ยวต่อคิวเข้าประเทศมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ไม่มีที่ไหนจะมีเสน่ห์ไปกว่าปารีส เมืองที่รุ่มรวยด้วยประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมเก่าแก่มากมาย จุดหมายสำคัญเมื่อคุณไปเยือนปารีสต้องที่ ‘ประตูชัย’ (Arc de Triomphe) ดังคำกล่าวที่ว่าถนนทุกสายในปารีสมุ่งตรงไปสู่ประตูชัย ซุ้มประตูขนาดใหญ่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหล่าทหารที่ต่อสู้และสละชีพเพื่อฝรั่งเศส ในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศสและช่วงสงครามนโปเลียน ประตูชัยเป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมในการเริ่มต้นสำรวจทัศนียภาพอันงดงามของกรุงปารีส
จากประตูชัยคุณสามารถเดินเท้าไปยังถนนสายชอปปิงชื่อดัง ‘ฌ็องเซลิเซ่’ (Avenue des Champs-Élysées) หนึ่งในย่านชอปปิงที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกและมีผู้คนมาเยี่ยมชมเกือบ 300,000 คนต่อวัน ถนนอันคึกคักสายนี้เรียงรายไปด้วยบูติกของดีไซเนอร์ชั้นนำ ร้านอาหารระดับไฮเอนด์ และโรงแรมหรู นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเสื้อผ้าจากดีไซเนอร์และเครื่องประดับสุดหรู ขณะที่คุณยังเพลิดเพลินกับสถาปัตยกรรมที่สวยงามและทิวทัศน์อันน่าทึ่ง นอกจากนี้ ฌ็องเซลิเซ่ยังเป็นที่ตั้งของไอคอนิกหลายแห่งของกรุงปารีส รวมถึงจัตุรัสคองคอร์ด (Place de la Concorde) ทำให้การเดินเล่นบนถนนสายนี้เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมห้ามพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนปารีส
‘พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์’ (Louvre Museum) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งของกรุงปารีส และเป็นสถานที่รวบรวมผลงานศิลปะที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองและเดินทางไปถึงได้ง่ายดายด้วยระบบขนส่งสาธารณะ นักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาหลายชั่วโมงในการสำรวจคอลเล็กชันงานศิลปะ รวมถึงโมนาลิซา (Mona Lisa) และวีนัสเดอมิโล (Venus de Milo)
ส่วนสถานที่สุดโรแมนติกในปารีสต้องยกให้ ‘หอไอเฟล’ (Eiffel) ที่มีความสูงถึง 324 เมตร ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันน่าทึ่งของกรุงปารีสได้อย่างตราตรึง แล้วยังมีร้านอาหารมิชลินสตาร์อย่าง ‘Le Jules Verne’ บนชั้น 2 ของหอไอเฟล ที่เหมาะสำหรับดินเนอร์สุดโรแมนติกและการคุกเข่าขอแต่งงาน หอไอเฟลเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของฝรั่งเศส ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายล้านคนในแต่ละปี นับตั้งแต่การเริ่มสร้างในปี พ.ศ. 2430 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2432
คุณสามารถพิชิตหอคอยแห่งนี้ด้วยการขึ้นบันไดหรือลิฟต์ แนะนำให้จองตั๋วล่วงหน้าผ่านทางออนไลน์ เพื่อหลีกเลี่ยงการต่อแถวยาวและทำให้แพลนท่องเที่ยวสถานที่อื่น ๆ ของคุณต้องเลทไปด้วย
** Tips: หอไอเฟลจะสวยงามและโรแมนติกในยามค่ำคืน เพราะมีการประดับตกแต่งด้วยไฟ ทำให้ช่วงพระอาทิตย์ตกดินและยามค่ำคืน เป็นเวลาที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวหอไอเฟลกันหนาตา นอกจากการดินเนอร์บนหอไอเฟลจะโรแมนติกอย่างมาก คุณยังสามารถล่องเรือดินเนอร์ไปตามแม่น้ำแซน พร้อมชมทิวทัศน์อันงดงามของหอไอเฟลและสถานที่สำคัญอื่น ๆ เช่น ประตูชัย และมหาวิหารน็อทร์-ดาม (Cathédrale Notre-Dame de Paris) อีกด้วย
การเดินทางไปเที่ยวฝรั่งเศสของคุณคงจะขาดความรื่นรมย์และไม่สมบูรณ์แบบ หากไม่ได้ไปเยือนบ้านเกิดของเครื่องดื่มที่เป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะและการเฉลิมฉลองอย่าง ‘แชมเปญ’ (Champagne) หรือ ‘แคว้นชองปาญ’ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส และเดินทางจากกรุงปารีสด้วยรถยนต์เพียง 1.5 ชั่วโมงเท่านั้น
เพียงแค่นั่งชมพระอาทิตย์ตกดินเหนือไร่องุ่นกว้างไกลสุดสายตา และชมภูมิทัศน์อันงดงามชวนฝันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้คุณรู้สึกคุ้มค่ากับมาเยือนสถานที่สุดโรแมนติกแห่งนี้ อย่างไรก็ดี คุณสามารถจองทัวร์ไปร่วมชมโรงผลิตแชมเปญ (Champagne Pommery) ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเมือง ที่จะมอบประสบการณ์อันน่าจดจำและผ่อนคลายไปกับแชมเปญรสเลิศของเมืองนี้
Moët & Chandon, Veuve Cliquot, Taittinger, Mercier, Nicolas Feuillatte และ Dom Pérignon เป็นหนึ่งในผู้ผลิตแชมเปญที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ที่อนุญาตให้คุณได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์อันทรงเกียรติและยาวนานหลายศตวรรษ เยี่ยมชมกระบวนการผลิต ชมห้องใต้ดิน จิบแชมเปญระดับพรีเมียมและซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านได้อีกด้วย รวมถึงรับประทานอาหารกลางวันในไร่องุน ที่จะมอบประสบการณ์สุดประทับใจและความสุขตลอดการมาเยี่ยมเยือนเมืองแชมเปญแห่งนี้
ฤดูร้อนในฝรั่งเศสเป็นช่วงเวลาที่ทุ่งดอกลาเวนเดอร์จะบานสะพรั่งมองไปไกลสุดสายตา ทุ่งดอกลาเวนเดอร์นี้ทำให้ ‘โพรวองซ์’ เป็นสถานที่ที่สวยงามและมีกลิ่นหอมที่สุดแห่งหนึ่งในฝรั่งเศส ทุ่งดอกไม้ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอุตสาหกรรมความงามและน้ำหอมนี้ จัดเป็น Romantic Destination ที่นักท่องเที่ยวหลายล้านคนใฝ่ฝันจะมาเยือนทุกปี โดยเฉพาะจุดชมวิวที่สวยงามอย่าง ที่ราบวาล็องโซล (Valensole) และหุบเขาลูเบรอน (Luberon)
นางเอกของโพรวองซ์ไม่ได้มีแค่ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่ทอดตัวยาวสุดสายตา หากแต่ยังมีไร่องุ่น สถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์ โพรวองซ์ยังมีสกีรีสอร์ทและกิจกรรม Adventures มากมายไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการผจญภัยในเขตเทือกเขาแอลป์ ท่ามกลางวิวทิวทัศน์อันสวยงามตระการตา และเขตเมืองริมชายหาดที่โด่งดังที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลกอย่าง ‘โกตดาซูร์’ (Côte d'Azur) หรือที่หลายคนมักจะคุ้นเคยในชื่อ ‘เฟรนซ์ริเวียร่า’ (French Riviera) ที่มีเมืองตากอากาศสุดหรูอย่าง นีส (Nice) คานส์ (Cannes) และกราสส์ (Grasse) พร้อมกับน้ำทะเลสีฟ้าใสไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวตลอดปี ทั้งยังเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลหนังเมืองคานส์อีกด้วย
** Tips: ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการชมทุ่งลาเวนเดอร์คือ ฤดูร้อนหรือกลางเดือนมิถุนายนจนถึงกรกฎาคมของทุกปี ส่วนช่วงปลายเดือนกรกฎาคมจนถึงกันยายนจะเป็นฤดูเก็บเกี่ยว โดยทุ่งลาเวนเดอร์จะเปิดตัอนรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่เวลา 09.30 น. จนถึงพระอาทิตย์ตกในช่วงฤดูร้อน ส่วนวันอาทิตย์จะเปิดให้บริการถึง 13.00 น. ซึ่งช่วงเวลาที่คนหนาแน่นมากที่สุดจะเป็นทัวร์แรกของวันประมาณ 10.30 น.
แม้ฝรั่งเศสจะเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านและเมืองที่สวยงามหลายแห่ง ทว่ามีที่เที่ยวฝรั่งเศสเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่มีเสน่ห์ ราวกับหลุดเข้าไปในโลกแห่งเทพนิยายเช่นเดียวกับ ‘มหาวิหารมงแซ็ง-มีเชล’ แห่งเมืองมองซ์ (Mont) แคว้นนอร์มังดี อารามยุคกลางที่สวยงามนี้ตั้งอยู่บนเกาะหินเล็ก ๆ กลางแม่น้ำ Couesnon ห่างจากชายฝั่งนอร์มังดีราว 600 เมตร จนดูเหมือนปราสาทในเทพนิยาย ฉากทัศน์อันงดงามนี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับการ์ตูนเรื่อง ‘เจ้าหญิงราพันเซล’ ของวอลท์ ดิสนีย์
แรกทีเดียวมหาวิหารแห่งนี้เป็นเพียงโบสถ์เล็ก ๆ ที่สร้างขึ้นโดยบิชอปอูเบิร์ด (Aubert of Avranchers) ด้วยอ้างว่า เขาได้รับนิมิตจากเซนต์ไมเคิลถึง 3 ครั้ง ก่อนจะสร้างโบสถ์ขึ้นมาในปี 709 และผ่านการต่อเติมขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นมหาวิหารที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ (Romanesque Architecture) และกอทิก (Gothic Architecture) เข้าด้วยกัน เกิดเป็นความยิ่งใหญ่และงดงามดังเช่นทุกวันนี้
ครั้งหนึ่งมหาวิหารมงแซ็ง-มีเชล เคยเป็นสถานที่แสวงบุญของชาวคริสต์ที่ยิ่งใหญ่ในศตวรรษที่ 8 ปัจจุบัน และ ที่คุมขังนักโทษในช่วงสงครามฝรั่งเศส ก่อนจะกลับมาทำหน้าที่เป็นศาสนาสถานของคริสตจักรอีกครั้ง มหาวิหารแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกในปี 1979 ทั้งยังคงดึงดูดนักท่องเที่ยวกว่าสามล้านคนต่อปี ส่งผลให้ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวฝรั่งเศสยอดนิยมที่สุดนอกจากปารีส
ด้วยความที่มงแซ็ง-มีเชลล้อมรอบด้วยน้ำจึงสร้างความลึกลับและมีเสน่ห์ดึงดูดใจผู้คนอย่างมาก สมัยก่อนผู้คนต้องรอช่วงเวลาน้ำลดถึงจะเดินเท้าไปแสวงบุญยังมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ได้ ทว่าปัจจุบันคุณสามารถเดินทางไปเยี่ยมชมมหาวิหารมงแซ็ง-มีเชลได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยการข้ามสะพานที่มีความยาว 2,500 ฟุต รายล้อมด้วยหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่แสนจะน่ารักราวกับบ้านในเทพนิยาย แล้วอย่าลืมลิ้มลองอาหารดั้งเดิมของชาวเบรอตงอย่างเมนูกาเล็ตต์ (เครป) และเป็นอาหารยอดนิยมของแคว้นบริททานี
** Tips: เกาะมงแซ็ง-มีเชล เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.30-18.00 น. ยกเว้นวันที่ 1 มกราคม 1 พฤษภาคม และ 25 ธันวาคมของทุกปี เสียค่าเข้าชมคนละ 11 ยูโร (ผู้ใหญ่) เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าชมฟรี อย่าลืมพกพาสปอร์ตมาด้วย ส่วนคนที่อยากลิ้มลองกาเล็ตต์ร้านดังต้อง La Sirene Lochet ที่คนต่อคิวเยอะมาก
เมืองที่เต็มไปด้วยรีสอร์ทหรูริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่สวยงาม ซึ่งมีแสงแดดอุ่นสาดส่องบน French Riviera แห่งนี้ มีชื่อเสียงในด้านหาดทรายขาวสะอาดบริสุทธิ์และบูติกสุดหรูมากมาย ไม่นับรวมเหล่าคนดังที่แวะมาแล่นเรือยอทช์ในวันพักผ่อน เดิมทีแซ็ง-ทรอเปเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่เงียบสงบบนโกตดาซูร์ ก่อนที่เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้จะกลายเป็นดินแดนแห่งความหรูหราในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้องขอบคุณจิตรกรอิมเพรสชั่นนิสต์ชื่อดังอย่าง ปอล ซีญัก (Paul Signac) และศิลปินผู้ยิ่งใหญ่คนอื่น ๆ อาทิ อ็องรี มาตีส (Henri Matisse) และอัลเบิร์ต มาร์เกต์ (Albert Marquet) ที่สร้างชื่อเสียงให้แซ็ง-ทรอเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
ชื่อเสียงของแซ็ง-ทรอเป โด่งดังไปทั่วโลกอีกครั้งหลังจากการปรากฎตัวของบริฌีต บาร์โด (Brigette Bardot) จากภาพยนตร์เรื่อง Et Dieu Créa la Femme (And God Create Woman) ที่เข้าฉายในช่วงศตวรรษที่ 1950 ที่ทำให้เมืองเล็ก ๆ แห่งเฟรนซ์ริเวียร่ากลายเป็นสถานที่ตากอากาศสุดหรูยอดนิยมของฮอลลีวูด แม้จะมีชื่อเสียงว่าเป็นบ้านหลังที่ 2 ของมหาเศรษฐีระดับโลก แต่แซ็ง-ทรอเปก็ยังคงรักษาเสน่ห์ดั้งเดิมไว้ได้อย่างลงตัว นอกเหนือจากความหรูหราและมนต์เสน่ห์เย้ายวนใจ คุณจะได้เห็นผู้สูงอายุในท้องถิ่นเล่นลูกเปตองในวันอากาศดีที่ Place des Lices และการจิบกาแฟโอเล่ต์ (Café au Lait-กาแฟใส่นม) ริมท่าเรืออันงดงาม
นอกจากนี้ คุณยังสามารถนอนอาบแดดบนหาดปอมเปโลน (Pampelonne Beach) ชายหาดที่ทอดตัวยาวกว่า 6 กิโลเมตร และเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ชื่อดังหลายเรื่อง ชายหาดแห่งนี้อยู่ห่างจากแซ็ง-ทรอเปเพียง 5 กิโลเมตร ที่มีชื่อเสียง คุณยังสามารถสำรวจหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์แตกต่างกัน หรือชมวิวทิวทัศน์อันตระการตาจากเมืองรามาตูเอลล์ (Ramatuelle) บนยอดเขา หรือจะตามเที่ยวรอยซีรีส์ ‘Emily in Paris’ ก็ได้เช่นกัน
เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับ ‘ที่เที่ยวฝรั่งเศส’
** เที่ยวปารีส: เมื่อเดินทางปารีส ควรทำความคุ้นเคยกับระบบขนส่งสาธารณะและรถไฟใต้ดิน เพราะเป็นการเดินทางที่ง่ายดายและคล่องตัวอย่างมาก แนะนำให้ซื้อบัตร Pass Navigo Découverte ซึ่งจะช่วยประหยัดทั้งเงินและเวลา ทำให้คุณสามารถสำรวจปารีสได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น
** ซื้อบัตร Paris Visite Travel Card: บัตรนี้ให้คุณเที่ยวเมืองหลวงของฝรั่งเศสได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยระบบขนส่งสาธารณะในกรุงปารีส ทั้งรถบัส รถไฟ หรือรถราง ทั้งยังเข้าชมพิพิธภัณฑ์และสถานที่สำคัญทั้งในและรอบปารีสมากกว่า 50 แห่ง รวมถึงพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์และประตูชัย (Arc de Triomphe) ไม่เพียงช่วยประหยัดเงินเท่านั้น แต่บัตรนี้ยังช่วยให้คุณเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งโดยไม่ต้องต่อแถวได้อีกด้วย
** ชอปปิงในปารีส: ฌ็องเซลิเซ่เป็นถนนสายแฟชั่นที่รวมแบรนด์หรูสัญชาติฝรั่งเศสไว้ครบครัน เช่น Louis Vuitton, Chanel และ Dior แม้คุณจะไม่ได้ชอปปิงสินค้าจากช็อปเหล่านั้น แต่การได้เดินชมการตกแต่งหน้าร้านก็ให้ความรู้สึกเหมือนคุณได้สัมผัสกับไลฟ์สไตล์ชาวปารีเซียงแล้วล่ะ
** แวะร้านขนมหวานชื่อดังแห่งฌ็องเซลิเซ่: อย่ามัวเพลินกับการเดินชอปปิง เพราะถนนสายแฟชั่นแห่งนี้ยังมี ‘Ladurée’ ร้านเบเกอรี่สุดหรูที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศส อร่อยกับมาการองสูตรต้นตำรับ และเป็นวิธีที่สมบูรณ์แบบในการสัมผัสรสชาติแบบชาวปารีเซียง
ทั้งหมดนี้ที่ทำให้ ‘ฝรั่งเศส’ เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ที่ฝันอยากจะมาเยี่ยมเยือนสักครั้งในชีวิต แดนน้ำหอมที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และการผสมผสานเสน่ห์แบบโลกเก่าและความทันสมัยได้อย่างมีเอกลักษณ์ ที่เที่ยวฝรั่งเศสเต็มไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติ สถาปัตยกรรม ศิลปะ และหอไอเฟลที่เป็นตัวแทนความมหัศจรรย์ของปารีสได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ท่องเที่ยวให้สนุกและอุ่นใจในทุกเส้นทาง อย่าลืมซื้อประกันเดินทางต่างประเทศของชับบ์ (Chubb Travel Insurance) ไปด้วย สอบถามข้อมูลการคุ้มครองประกันภัยได้ที่โทร. 0-2611-4242