12 ที่เที่ยวเซี่ยงไฮ้สุดปัง สถาปัตยกรรมสุดอลังการรออยู่

    สัมผัสความเจริญสุดล้ำท่ามกลางมนต์เสน่ห์แบบตะวันออก ที่ผสมผสานความคลาสสิคเข้ากับความโมเดิร์นได้อย่างลงตัว ชับบ์ ชวนคุณบินลัดฟ้าไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เจ้าของฉายา “ปารีสแห่งตะวันออก” อดีตหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ริมแม่น้ำแยงซีเกียงที่พัฒนาสู่การเป็นเมืองท่าค้าขายกับต่างประเทศในศตวรรษที่ 19 ปัจจุบันเซี่ยงไฮ้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดของประเทศจีน เมืองที่จะทำให้คุณตื่นตาตื่นใจไปกับความทันสมัย และสถาปัตยกรรมจีนโบราณที่แทรกตัวอยู่ในเซี่ยงไฮ้ได้อย่างมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร เราคัดสรร 12 ที่เที่ยวเซี่ยงไฮ้สุดฮิตที่สายถ่ายรูปไม่ควรพลาด จะมีที่ไหนกันบ้างตามไปดูกันเลย!

*** ทุกครั้งก่อนไปเที่ยวจีนอย่าลืมตรวจเช็คสภาพภูมิอากาศให้เรียบร้อย และควรเตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับฤดูกาล ถ้าอยากเที่ยวต่างประเทศให้อุ่นใจต้องมี ประกันการเดินทางต่างประเทศชับบ์ (Chubb Travel Insurance) คอยดูแลคุณและเพื่อนร่วมทาง เพียงเท่านี้ทริปไหนๆ ก็ปลอดภัยพร้อมลุยไปทั่วโลกแล้วล่ะ!!!

1. The Bund (เดอะบันด์)

    เจ้าของฉายา “หาดเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้” และสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังระดับโลกทั้ง Mission: Impossible III, Skyfall, และ Transformers: Age of Extinction บอกเลยว่าที่นี่เป็นจุดเช็คอินและที่เที่ยวเซี่ยงไฮ้ห้ามพลาด! เดอะบันด์ หรือ ไว่ทาน (Waitan) หนึ่งในแลนด์มาร์คที่โด่งดังที่สุดของมหานครเซี่ยงไฮ้ ถนนริมแม่น้ำหวงผู่ (Huangpu River) ที่ทอดตัวยาวประมาณ 1.5 กิโลเมตรสายนี้เต็มไปด้วยอาคารสไตล์โคโลเนียลสุดคลาสสิค สร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 จนถึงต้นศตวรรษที่ 20 ทำให้เดอะบันด์เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ยิ่งใหญ่อลังการ สะท้อนถึงการผสมผสานทางวัฒนธรรมระหว่างตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกัน ฝั่งตรงข้ามเป็นความศิวิไลซ์ของตึกระฟ้าที่เต็มไปด้วยความทันสมัยของเมืองใหม่ฝั่งผู่ตง (Pudong) บอกเลยว่าถ่ายรูปมุมไหนก็สวยปัง! แถมยังเป็นจุดชมวิวแม่น้ำและวิวเมืองที่ดีที่สุดอีกด้วย

• พิกัด: https://maps.app.goo.gl/KrZ8BE6w6xEHxsRn8
• วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินลงสถานี East Nanjing แล้วเดินต่อประมาณ 500 เมตร

2. Oriental Pearl Tower (หอไข่มุกตะวันออก)

    หนึ่งในแลนด์มาร์คที่โด่งดังที่สุดของนครเซี่ยงไฮ้และหอคอยที่สูงเป็นอันดับ 5 ของโลก จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก “หอไข่มุกตะวันออก” ด้วยรูปทรงที่มีเอกลักษณ์คล้ายกับไข่มุก 3 เม็ด 3 ขนาดเรียงซ้อนกันในแนวตั้ง หอคอยไข่มุกเป็นสัญลักษณ์ของความทันสมัยและความเจริญก้าวหน้าของมหานครเซี่ยงไฮ้ นับตั้งแต่ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1995 จนถึงปัจจุบัน ที่นี่เป็นหอส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์สูง 468 เมตร ภายในหอทรงกลมเป็นภัตตาคาร โรงแรมหรู และร้านค้า ด้านใต้เป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เมืองเซี่ยงไฮ้ เมืองจำลองโลกอนาคต และเมืองวิทยาศาสตร์สุดแฟนตาซี จากที่นี่คุณสามารถชมวิวเซี่ยงไฮ้แบบ 360 องศาฯ ได้อย่างตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะช่วงกลางคืนที่ทั่วทั้งเมืองจะแต่งแต้มด้วยแสงไฟระยิบระยับราวกับดวงดาวเลยล่ะ

• พิกัด: https://maps.app.goo.gl/A8yWfqrQC3uGDSv3A
• เปิดให้บริการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00-21.00 น.
• ค่าเข้าชม: เด็กท่านละ158 หยวน และ ผู้ใหญ่ท่านละ 299 หยวน
• วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินลงสถานี Lujiazui จากนั้นเดินต่อประมาณ 1 กิโลเมตร

3. Shanghai World Financial Center (ศูนย์การเงินโลกเซี่ยงไฮ้)

    ใครอยากชมทิวทัศน์ของมหานครเซี่ยงไฮ้ในมุมที่สูงที่สุดยกมือขึ้น! Shanghai World Financial Center หรือที่เรียกย่อๆ ว่า “SWFC” เป็นอาคารสำนักงานที่สูงที่สุดอันดับสามของประเทศจีน และหนึ่งในอาคารสูงที่สุดอันดับ 5 ของโลก เจ้าของสถิติความสูง 492 เมตร อาคารสูง 101 ชั้นแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญก้าวหน้าและความทันสมัยของเซี่ยงไฮ้ในยุคปัจจุบัน ด้านบนมีจุดชมวิวให้เลือกวัดใจถึง 3 ระดับ ตั้งแต่ชั้น 94, ชั้น 97 และสกายวอลค์ชั้น 100 (Sky Walk 100) ที่มาพร้อมความสูง 474 เมตร ให้คุณชื่นชมวิวทิวทัศน์อันตระการตาของเซี่ยงไฮ้แบบพานอรามา ในวันหมอกหนาก็อาจจะได้ชมความสวยงามของเซี่ยงไฮ้ที่ให้ฟิลเหมือนกำลังเดินอยู่บนปุยเมฆเลยล่ะ แล้วยังมองเห็นเดอะบันด์ หอไข่มุกตะวันออก หอคอยจินเหมา (Jinmao Tower) และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งของเซี่ยงไฮ้ รวมถึงพิชิตความกลัวด้วยการเดินบนกระจกใสที่มองเห็นแม่น้ำหวงผู่เบื้องล่างได้อย่างหวาดเสียวสุดๆ

• พิกัด: https://maps.app.goo.gl/UEuazotkQe2vxcs86
• เปิดให้บริการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7.00-21.00 น.
• ค่าเข้าชม: ชมวิวบนชั้น 94, 97 และ 100 ราคา 120 หยวน/ ท่าน I ชมวิวบนชั้น 94 ราคา 80 หยวน/ ท่าน
• วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินลงสถานี Lujiazui จากนั้นเดินต่อประมาณ 10 นาที หรือรถบัสสาย 583, 799, 939

4. Jade Buddha Temple (วัดพระหยก)

    พักเบรคจากความศิวิไลซ์แล้วไปดื่มด่ำกับศิลปะและวัฒนธรรมจีนกันบ้าง “วัดพระหยก” ตั้งชื่อตามพระพุทธรูปหยกขาว 2 องค์ที่อัญเชิญมาจากประเทศเมียนมา ว่ากันว่า หยกขาวแวววาวและใสบริสุทธิ์ราวกับคริสตัล ทำให้พระพุทธรูปทั้งสององค์เปี่ยมด้วยความงดงามและความศักดิ์สิทธิ์จนเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวจีนอย่างมาก วัดนี้สร้างขึ้นโดยพระภิกษุนามว่า “ฮุ่ยเก็น” (Huigen) เมื่อปี ค.ศ.1882 เพื่อเป็นสถานที่เก็บรักษาโบราณวัตถุล้ำค่าสมัยราชวงศ์เว่ยจนถึงราชวงศ์ชิง ก่อนที่วัดจะถูกทำลายในช่วงการปฏิวัติล้มล้างราชวงศ์ชิง แต่โชคดีที่พระหยกทั้งสององค์ได้รับการเก็บรักษาไว้อย่างดีและไม่ถูกทำลาย

    กระทั่งในปี ค.ศ. 1928 ได้มีการสร้างวัดพระหยกแห่งใหม่ขึ้นมาบนสถานที่ตั้งปัจจุบัน ภายในวัดยังมีพระพุทธรูปปางนอนที่มีความยาวถึง 4 เมตร ซึ่งอัญเชิญมาจากสิงคโปร์โดยเจ้าอาวาสองค์ที่ 10 เมื่อปี ค.ศ. 1989 รวมถึงภาพวาดโบราณและคัมภีร์สำคัญทางพระพุทธศาสนาอีกมากมาย เชื่อกันว่า ใครได้มากราบไหว้ขอพรกับพระหยกขาวจะมีโชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัย และสุขภาพแข็งแรง ทั้งยังได้เรียนรู้สถาปัตยกรรมจีนโบราณที่สวยงามและทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์อีกด้วย

• พิกัด: https://maps.app.goo.gl/DVttmQ6mEW7arws58
• เปิดให้บริการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00-16.30 น.
• ค่าเข้าชม: ท่านละ 20 หยวน
• วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินลงสถานี Jiangning Road Line 13 จากนั้นเดินอีกประมาณ 300 เมตร

5. Shanghai Natural History Museum (พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติเซี่ยงไฮ้)

    เอาใจสายประวัติศาสตร์และคนรักธรรมชาติกันบ้าง! เดินเล่นท่ามกลางโลกยุคดึกดำบรรพ์ที่ “พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติเซี่ยงไฮ้” หนึ่งในวิทยาศาสตร์ธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ที่จะทำให้คุณร้อง ว้าวววว! ให้กับความอลังการงานสร้างและตื่นตาตื่นใจไปกับโครงกระดูกไดโนเสาร์ขนาดมหึมา พระเอกของที่นี่คือ โครงกระดูกไดโนเสาร์คอยาว “มาเมนชีซอรัส” (Mamenchisaurus) จากมณฑลเสฉวน ที่หลายคนคุ้นตาจากภาพยนตร์เรื่อง “Jurassic Park” ที่มีขนาดความสูงเท่ากับตึก 4 ชั้น รวมถึงซากช้างแมมมอธและซาลาแมนเดอร์ยักษ์ที่พบในประเทศจีน ภายในพิพิธภัณฑ์ยังจัดแสดงผลงานล้ำค่าและหาชมยากอีกกว่า 240,000 ชิ้น ทั้งพืชดึกดำบรรพ์ ซากสัตว์ ซากโบราณวัตถุยุคหินต่างๆ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ทำให้เราได้เปิดโลกกว้างและได้ความรู้กลับบ้านไปเต็มๆ

• พิกัด: https://maps.app.goo.gl/qPhJi74dbWbvQ6LAA
• เปิดให้บริการ: ทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 9.00-17.00 น.
• ค่าเข้าชม: ท่านละ 30 หยวน
• วิธีเดินทาง: นั่ง Metro สาย 13 (สายสีชมพู) ลงสถานี Shanghai Natural History Museum ทางออก 1 เดินขึ้นมาเลี้ยวขวาและเดินไปอีกนิดก็ถึง

6. Shanghai Disneyland Park (เซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์)

    สาวกดิสนีย์และคนรักสวนสนุกห้ามพลาดธีมพาร์คที่นี่เชียว! เซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์ เป็นสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และเป็นสวนสนุกดิสนีย์แลนด์แห่งที่ 6 ของโลก ที่ให้คุณสนุกกับเครื่องเล่นสุดมันส์ ชมโชว์สุดอลังการ และถ่ายรูปกับตัวการ์ตูนดิสนีย์ที่ชื่นชอบ ภายในสวนสนุกแบ่งออกเป็น 7 โซน 7 สไตล์ ที่มีทั้งความสนุกสนานและความแฟนตาซีไม่แพ้กัน เริ่มตั้งแต่ Mickey Avenue, Fantasyland, Garden of Imagination, Treasure Cove, Adventure isle, Tomorrowland และโซนใหม่ล่าสุด Zootopia สนุกสนานไปกับการแสดงของเหล่าตัวละครจากดิสนีย์ ขบวนพาเหรด และชมการแสดงแสงสีเสียงสุดปังยามค่ำคืน สาวกกล่องจุ่มก็มาช้อปกระจายได้ที่ Pop Mart Disney town ใครมาเที่ยวเซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แล้วบอกเลยว่าฟินสุดๆ!

• พิกัด: https://maps.app.goo.gl/p8asuWGGogBoq31x8
• เปิดให้บริการ: ทุกวัน I จันทร์-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 9.00-22.00 น.I อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 9.00-18.00 น. · ค่าเข้าชม: ดูรายละเอียดได้ที่ https://www.shanghaidisneyresort.com/
• วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย 11 ลงสถานี Disney Resort ทางออก 2 หรือ 4 จากนั้นเดินอีกประมาณ 5 – 10 นาที

7. Zhujiajiao Water Town (เมืองน้ำโบราณจูเจียเจี่ยว)

    หลีกหนีความวุ่นวายในเมืองใหญ่ แล้วไปสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของเมืองโบราณที่เต็มไปด้วยคลองเล็กๆ บ้านเรือนโบราณ และสะพานหินโค้งสวยงามกันที่ เมืองน้ำโบราณจูเจียเจี่ยว หรือที่หลายคนยกย่องให้เป็น "เวนิสแห่งเซี่ยงไฮ้" เป็นเมืองแห่งสายน้ำที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,700 ปี ทั้งยังคงรักษาสถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณได้อย่างสมบูรณ์ สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง การได้มาเที่ยวเซี่ยงไฮ้แล้วปล่อยใจให้เนิบช้าไปกับการนั่งเรือจีนโบราณ ชมวิวทิวทัศน์สองฝั่งคลองอย่างผ่อนคลาย สำหรับคนที่ไม่มีเวลาไปเที่ยวเมืองโบราณในชนบทของจีน เมืองน้ำโบราณจูเจียเจี่ยวพร้อมมอบประสบการณ์แบบเดียวกันได้อย่างเพลิดเพลิน ให้คุณลิ้มลองอาหารท้องถิ่น ดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดชิลล์ และไหว้พระขอพรที่ศาลเจ้าเก่าแก่ บอกเลยว่าเมืองแห่งสายน้ำนี้จะมอบความประทับใจให้คุณแบบสุดๆ ไม่แพ้กัน!

• พิกัด: https://maps.app.goo.gl/zTk438is8Rh5p92J8
• เปิดให้บริการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30-20.00 น.
• วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้าลงสถานี Fengqi road ทางออก B จากนั้นเดินตามป้ายไปเรื่อยๆ ประมาณ 10 นาที

8. Tianzifang Art District (ย่านศิลปะเทียนจื่อฟาง)

    ย่านศิลปะสุดฮิปที่เต็มไปด้วยร้านรวงเล็กๆ ร้านกาแฟเก๋ๆ แกลเลอรีศิลปะ และสตูดิโอออกแบบ เทียนจื่อฟาง ดัดแปลงย่านที่อยู่อาศัยและตลาดเก่าอายุเกือบ 100 ปี ให้เป็นย่านศิลปะและวัฒนธรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในเซี่ยงไฮ้ ครองใจนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสกับวัฒนธรรมดั้งเดิมที่หลอมรวมเข้ากับศิลปะร่วมสมัยของจีนได้อย่างกลมกลืน ย่านเทียนจื่อฟางยังเต็มไปด้วยสตูดิโอและแกลเลอรีของศิลปินรุ่นใหม่ รวมถึงสัมผัสวิถีฮิปสเตอร์ผ่านวัฒนธรรมการดื่มกาแฟของชาวจีน ให้คุณสนุกกับการชิมขนมพื้นบ้าน อาหารพื้นเมือง ชมงานศิลปะ จิบกาแฟในโรงคั่วท้องถิ่น ช้อปสินค้าแฮนด์เมด ถ่ายรูปกับกำแพงกราฟฟิตี้ และเพลิดเพลินกับการแสดงดนตรี เต้นรำ หรือการแสดงศิลปะอีกมากมาย คนรุ่นใหม่ไม่ควรพลาดย่านสุดชิคแห่งนี้!

• พิกัด: https://maps.app.goo.gl/GvQdrQucosmTZa2r6
• เปิดให้บริการ: ทุกวัน
• วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้าสาย 9 ลงที่สถานี Dapuqiao ทางออก 1

9. Nanjinglu Street (ถนนหนานจิง)

    Shopping Street สุดชิคที่รวมร้านค้าแบรนด์เนม ร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้าไว้มากมาย เรียกว่ามาที่นี่ได้ทั้งช้อป ชิม ชิลล์ ครบจบในที่เดียว! ถนนหนานจิง เป็นย่านช้อปปิงเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงที่สุดของเซี่ยงไฮ้ ในอดีตเคยเป็นถนนการค้าหลักมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1845 หนานจิงแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งคือ “ถนนหนานจิงตะวันออก” ย่านช้อปปิงที่พลุกพล่านที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แน่นไปด้วยร้านค้าแบรนด์เนม ร้านอาหาร ร้านขนมเจ้าดัง และห้างสรรพสินค้ามากมาย ส่วน “ถนนหนานจิงตะวันตก” จะมีบรรยากาศหรูหราและเงียบสงบกว่า สองข้างทางมีทั้งแบรนด์หรู โรงแรมห้าดาว และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ใครมาเที่ยวถนนหนานจิงยามค่ำคืนจะตื่นตาตื่นใจไปกับแสงสีและบรรยากาศที่คึกคัก เรียกว่าเดินช้อปปิ้งเพลินจนลืมเวลาไปเลย!

• พิกัด: https://maps.app.goo.gl/cGTcTYfiKafFBg2dA
• เปิดให้บริการ: ทุกวัน
• วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้าสาย 2 ลงสถานี West Nanjing Road หรือ People’s Square

10. Yuyuan Garden (สวนอวี้หยวน)

    สาธารณะในเวลาต่อมา สวนแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในตัวอย่างสวนจีนแบบคลาสสิกที่สมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน ผสมผสานสถาปัตยกรรมจีนดั้งเดิมเข้ากับความสวยงามของธรรมชาติได้อย่างลงตัว ครอบคลุมพื้นที่กว่า 20,000 ตารางเมตร แบ่งออกเป็น 6 โซนหลักๆ อาทิ โซนหินใหญ่ที่มีก้อนหินสูง 14 เมตรตั้งตระหง่าน สะพานโค้ง Nine-Turn Bridge ที่งดงามและเชื่อกันว่าลักษณะโค้งที่มีเอกลักษณ์สามารถขับไล่วิญญาณชั่วร้ายได้ Old City God Temple ที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ บ่อน้ำ และศาลาจีนกลางน้ำที่งดงาม นอกจากนี้ Yuyuan Bazaar ยังมีร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหารมากมาย เหมาะแก่การมาพักผ่อนหย่อนใจ แถมยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ เพียบเลยล่ะ!

• พิกัด: https://maps.app.goo.gl/SE7DU8w2T1rcTsgT6
• เปิดให้บริการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30-16.45 น.
• ค่าเข้าชม: ค่าเข้าชมสวนท่านละ 40 หยวน บริเวณภายนอกไม่มีค่าใช้จ่าย
• วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินลงสถานี Yuyuan Garden ทางออก 1 จากนั้นเดินตามป้ายบอกทางประมาณ 5 นาที

11. Xintiandi (ย่านซินเทียนตี้)

    อีกหนึ่งย่านช้อปปิงสตรีทยอดนิยมของคนรุ่นใหม่ ที่ปรับปรุงพัฒนาย่านที่อยู่อาศัยเก่าแก่ของชาวจีนให้กลายเป็นถนนสุดฮิปในเซี่ยงไฮ้ ซินเทียนตี้ เป็นย่านการค้าที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมจีนแบบชิคูเมน (Shikumen) ที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมจีนดั้งเดิมเข้ากับตะวันตกได้อย่างกลมกลืน ให้ความรู้สึกเหมือนเมืองท่องเที่ยวน่ารักๆ ในยุโรป โดดเด่นด้วยกรอบประตูหินที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเซี่ยงไฮ้ โดยคำว่า “ชิคูเมน” หมายถึง “ประตูหิน” นั่นเอง ซินเทียนตี้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของผู้คนที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่ซ้ำใครในเซี่ยงไฮ้ มีมุมถ่ายรูปชิคๆ คาเฟ่ลับที่ซ่อนตัวอยู่ตามซอยเล็กๆ และร้านขายสินค้าแฮนด์เมดก็มีให้เลือกได้ตามใจ โดยเฉพาะช่วงฤดูไม้ใบร่วงและฤดูหนาวที่ย่านนี้จะโรแมนติกอย่าบอกใคร!

• พิกัด: https://maps.app.goo.gl/356kgZQK9di26tQD8
• เปิดให้บริการ: ทุกวัน
• วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้าสาย 6 ลงสถานี Xintiandi จากนั้นให้เดินทะลุห้างสรรพสินค้าก็จะมาถึงย่านเซินทียนตี้

12. Cheng Huang Miao Market (ตลาดเฉิงหวังเมี่ยว)

    ใครชอบช้อปปิ้งในบรรยากาศสุดคลาสสิคต้องมาที่นี่เลย! เฉิงหวังเมี่ยว เป็นตลาดร้อยปีใจกลางเมืองเซี่ยงไฮ้ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสวนอวี้หยวน (Yuyuan Garden) โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมจีนโบราณสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง เฉิงหวังเมี่ยวเนืองแน่นไปด้วยผู้คนทั้งในยามกลางวันและกลางคืน ยิ่งตอนกลางคืนจะประดับประดาด้วยไฟทำให้ที่นี่สวยงามไม่แพ้ย่านอื่นๆ นอกจากนี้ ยังมี “เหล่าเฉิงหวงเมี่ยว” ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเซี่ยงไฮ้เก่าแก่สร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 15 ที่ชาวบ้านให้ความเคารพศรัทธาและมาสักการะขอพรกันเป็นประจำ แล้วยังมีร้านขายสินค้าพื้นเมือง อาหารท้องถิ่น และของที่ระลึกให้เลือกมากมาย ใครมาเฉิงหวังเมี่ยงแล้วต้องชิม “เสี่ยวหลงเปา” ร้าน Nanxiang Steamed Bun Restaurant เมนูชื่อดังของเซี่ยงไฮ้ที่ใครมาถึงแล้วต้องลิ้มลอง รวมถึงเลือกซื้อของฝากที่มีเอกลักษณ์อย่าง เซ็ตถ้วยชา ผ้าไหม เครื่องประดับ และงานฝีมือมากมาย แถมราคายังเป็นมิตรต่อกระเป๋าตังค์อีกด้วย!

• พิกัด: https://maps.app.goo.gl/smEip8T67L7HyKkT6
• เปิดให้บริการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น.
• วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินลงสถานี Yuyuan Garden จากนั้นเดินตามป้ายบอกทางประมาณ 10 นาที

    และนี่คือ 12 ที่เที่ยวเซี่ยงไฮ้ ที่เราคัดสรรมาแล้วว่าเด็ดจริง! รับรองว่าถ้าได้ไปสัมผัสด้วยตัวเองแล้วคุณจะหลงรักเมืองนี้อย่างแน่นอน! จะเที่ยวให้สนุกและอุ่นใจต้องมีผู้ช่วยมือหนึ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากนักท่องเที่ยวหลายปีซ้อน ประกันการเดินทางต่างประเทศชับบ์ (Chubb Travel Insurance) ประกันเดินทางคุณภาพที่พร้อมดูแลคุณอย่างดีที่สุด พร้อมให้บริการสายด่วนฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02 611 4242 หรือ www.chubbtravelinsurance.co.th/