
10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม เที่ยวต่างประเทศที่ไหนดีปี 2568

เพราะทุกการเดินทาง คือประสบการณ์ ชับบ์ ชวนคุณเก็บกระเป๋าแล้วออกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม สถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์ ลิ้มลองอาหารพื้นเมือง และผ่อนคลายท่ามกลางทิวทัศน์ที่แปลกตา เรารวบรวม 10 ที่เที่ยวต่างประเทศยอดนิยมในปี 2568 จากการสำรวจของบริษัทท่องเที่ยวชั้นนำมากมาย ส่วนจะมีประเทศไหนน่าเที่ยวกันบ้าง...มาดูกันดีกว่า!
1. Italy (อิตาลี)

อิตาลี ประเทศที่ติด 1 ใน 10 จุดหมายปลายทางยอดนิยมแห่งปี 2567-2568 เจ้าของฉายา ‘Romantic Destination’ ของคู่รักทั่วโลก เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ไวน์ และอาหารที่มีเสน่ห์ ทำให้อิตาลีเป็นประเทศที่คุณสามารถเดินทางไปเที่ยวครั้งแล้วครั้งเล่า สำหรับคนที่ไปเที่ยวอิตาลีครั้งแรกไม่ควรพลาดกรุงโรม (Rome) เวนิส (Venice) และฟลอเรนซ์ (Florence) ส่วนคนที่อยากไปเที่ยวในที่ใหม่ ๆ มิลาน (Milan) ปูเกลีย (Puglia) โบโลญญา (Bologna) ซิซิลี (Sicily) และ หนึ่งในเส้นทางริมทะเลที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อย่างอามาลฟี (The Amalfi Coast) ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าคุณจะอยากเที่ยวธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญระดับโลก ศิลปวัฒนธรรม ไวน์ หรือแม้แต่อาหารอิตาเลียน การเดินทางไปเที่ยวอิตาลีจะพาคุณย้อนเวลาไปสัมผัสประวัติศาสตร์อันยาวนาน และดื่มด่ำกับความโรแมนติกของเมืองต่าง ๆ ที่ยากจะลืมเลือน
2. Georgia (จอร์เจีย)

ใครเลยจะรู้ว่า ดินแดนแห่งไวน์และประวัติศาสตร์ ท่ามกลางอ้อมกอดของเทือกเขาคอเคซัสที่ยิ่งใหญ่ตระการตาอย่าง จอร์เจีย จะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมาย ประเทศเล็ก ๆ แห่งนี้มีเสน่ห์ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าชื่นชอบธรรมชาติอันบริสุทธิ์หรือแสวงหาความเงียบสงบในการเดินทาง ด้วยความสวยงามของเมืองเก่าที่มีเทือกเขาคอเคซัสเป็นฉากหลัง วัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่ผสมผสานความเป็นยุโรปและเอเชียเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะวิวที่สวยงามราวภาพเขียนของ ‘โบสถ์เกอร์เกตี’ (Gergeti Trinity Church) ตั้งอยู่บนเนินเขาในคาซเบกิ (Kazbegi) หมู่บ้านเล็ก ๆ ท่ามกลางเทือกเขาคอเคซัส เป็นหนึ่งในมุมภาพถ่ายที่โด่งดังที่สุดของจอร์เจีย ที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่องไวน์รสเลิศและอาหารพื้นเมือง ‘Khachapuri’ หรือขนมปังยัดไส้ชีส และ ‘Supra’ มื้ออาหารแบบดั้งเดิม ที่มาแล้วไม่ควรพลาด!
3. South Africa (แอฟริกาใต้)

ไม่มีการท่องเที่ยวครั้งไหนจะตื่นเต้นเร้าใจ ได้เท่ากับการผจญภัยในดินแดนแห่ง ‘Big Five’ (สิงโต ช้าง เสือดาว แรด และควายป่า) อีกแล้ว แอฟริกาใต้ เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ธรรมชาติอันน่าทึ่ง และประวัติศาสตร์อันยาวนาน พร้อมมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แปลกใหม่และโดดเด่นไม่เหมือนใคร คุณจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตแบบ Wildlife ตัดกับความทันสมัยของเมือง ที่ที่คุณจะได้ผ่อนคลายไปกับทะเลสีฟ้าคราม และชมความยิ่งใหญ่ของ ‘Table Mountain’ สัญลักษณ์อันโดดเด่นของเมืองเคปทาวน์ (Cape Town) หรือผจญภัยในเดอร์บัน (Durban) เมืองริมทะเลที่มีกิจกรรมสนุก ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่า ดำน้ำ ชมปลาวาฬ และดำน้ำในกรงดูปลาฉลาม นอกจากนี้ แอฟริกาใต้ ยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับคนรักไวน์ตัวจริง โดยเฉพาะเขต Cape Winelands พื้นที่ปลูกไวน์ที่อุดมสมบูรณ์ในจังหวัดเวสเทิร์นเคป แล้วยังเป็นที่ตั้งของโรงกลั่นไวน์คุณภาพดีที่ได้รับรางวัลระดับโลกอีกด้วย
4. Fiji (ฟิจิ)

สวรรค์ของคนรักทะเลและหาดทรายขาวละเอียด ฟิจิ เป็นประเทศแห่งหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของธรรมชาติ ดินแดนแห่งหมู่เกาะกว่า 330 เกาะนี้รายล้อมด้วยน้ำทะเลใสบริสุทธิ์ที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตหลากสีสันที่ทั้งสวยงามและแปลกตา การได้พักร้อนที่ ฟิจิ เป็นความฝันของคนรักทะเลเลยก็ว่าได้ โดยจุดหมายปลายยอดนิยมต้องยกให้ วิติเลวู (Viti Levu) หมู่เกาะมามานานูกา (Mamanuca Islands) และหมู่เกาะเบกา (Bega Islands) การเดินทางมาเที่ยวฟิจิจะทำให้คุณสัมผัสกับประสบการณ์อันน่าประทับใจ ชนพื้นเมืองที่เป็นมิตร และวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนริมชายหาด ดำน้ำดูปะการัง เล่นเซิร์ฟ ท่องเที่ยวตามหมู่เกาะต่าง ๆ หรือสัมผัสวิถีชีวิตอันเรียบง่ายของชาวฟิจิ ทั้งหมดจะทำให้คุณอยากกลับไปเที่ยวฟิจิครั้งแล้วครั้งเล่า
5. Greece (กรีซ)

อีกหนึ่ง Dream Destination และสวรรค์ของคนรักทะเล ประเทศเล็ก ๆ ในยุโรปใต้ที่ได้รับการขนานนามให้เป็น “ดินแดนแห่งเทพปกรณัม” ต้นกำเนิดอารยธรรมกรีกโบราณ กรีซ รุ่มรวยด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ และธรรมชาติที่สวยงาม สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังต้องยกให้ ‘วิหารพาร์เธนอน’ (Parthenon) หนึ่งในโบราณสถานสำคัญที่สุดแห่งอะโครโปลิส (Acropolis) แห่งเอเธนส์ (Athens) ต้นกำเนิดแห่งอารยธรรมยุโรป และ ‘ซานโตรินี’ (Santorini) เกาะสวรรค์ของคู่รัก ที่โดดเด่นด้วยบ้านเรือนสีขาวตัดกับหลังคาสีฟ้าสดและท้องทะเลสีคราม หากคุณกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่ผสมผสานความเป็นเมืองโบราณ และทะเลสีครามได้อย่างลงตัว กรีซ คือคำตอบ!
6. Portugal (โปรตุเกส)

ฤดูร้อนในยุโรปนั้นมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะ โปรตุเกส ประเทศเล็ก ๆ ในยุโรปบนคาบสมุทรไอบีเรียที่มีความหลากหลายทางภูมิประเทศและธรรมชาติที่สวยงาม ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โปรตุเกสได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเมืองตากอากาศริมทะเลที่สวยงามอย่าง ‘คามารา เดอ โลโบส’ (Câmara de Lobos) และ ‘อาเซนฮาส โด มาร์’ (Azenhas do Mar) รายล้อมด้วยหน้าผาสีส้ม ตัดกับสถาปัตยกรรมสีขาว เส้นทางเดินป่าและสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมาย ใครมาเที่ยวโปรตุเกสต้องเช็คอินที่ ‘ลิสบอร์น’ (Lisbon) เมืองที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป เยี่ยมชม ‘หอคอยเบเล็ม’ (Torre de Belém) ป้อมปราการโบราณ และ ‘วิหารเจอโรนิโม’ (Jeronimos Monastery) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก อีกทั้งนักท่องเที่ยวยังชื่นชอบอาหารพื้นเมืองและไวน์รสเลิศ ที่จะทำให้คุณตกหลุมรักโปรตุเกสจนหมดใจ
7. Switzerland (สวิตเซอร์แลนด์)

แน่นอนว่า สวิตเซอร์แลนด์ มีชื่อเสียงด้านทัศนียภาพที่สวยงามราวภาพฝัน และความยิ่งใหญ่ของเทือกเขาแอลป์อันบริสุทธิ์ เพียงได้สูดอากาศบริสุทธิ์ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย ทุ่งหญ้าสีเขียว แม่น้ำที่ใสราวกับกระจก และบ้านเมืองที่มีเสน่ห์ ก็อาจทำให้หลายคนอยากจะมีบ้านพักตากอากาศที่สวิตเซอร์แลนด์เลยก็ว่าได้ ด้วยภูมิประเทศที่เป็นภูเขา ทำให้การท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือการนั่งรถไฟสาย ‘Glacier Express’ และ ‘Bernina Express’ ชื่นชมทัศนียภาพอันงดงามจนแทบลืมหายใจ ปรับจังหวะชีวิตให้เนิบช้า จิบกาแฟหอมกรุ่น หรือขึ้นไปสัมผัสความหนาวเย็นของเทือกเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) หนึ่งในยอดเขาที่สวยที่สุดของโลก
ในแซร์มัทท์ (Zermatt) เมืองที่อากาศดีที่สุดในโลก ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปเที่ยวเมืองไหนของสวิตเซอร์แลนด์ ดินแดนแห่งนมและน้ำผึ้งจะทำให้คุณประทับใจในธรรมชาติและวิถีชีวิต Slow Life อย่างแท้จริง
8. Vietnam (เวียดนาม)

ประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังมาแรงด้านการท่องเที่ยว เวียดนาม เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางธรรมชาติ บ้านเมืองที่มีเอกลักษณ์ และอาหารเวียดนามที่หลายคนชื่นชอบ เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมแปลกใหม่ ที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวทั่วโลกอย่าง ‘ซาปา’ (Sa Pa) เมืองเล็ก ๆ ทางภาคเหนือของเวียดนาม ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของธรรมชาติที่สวยงาม อากาศเย็นสบาย และวัฒนธรรมของชนเผ่าพื้นเมือง ‘บานาฮิลล์’ (Bana Hills) อีกหนี่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองดานัง ที่จะพาคุณไปสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ ราวกับได้ไปเที่ยวหมู่บ้านสวย ๆ จากยุคกลางของยุโรป ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย และบรรยากาศโรแมนติกยามค่ำคืน แล้วยังมีเครื่องเล่นสนุก ๆ อีกเพียบ แนะนำให้ไปพักค้างคืนบนบานาฮิลล์สักครั้ง แล้วคุณจะชิลล์จนนึกว่าไปเที่ยวยุโรปเลยล่ะ
9. China (จีน)

อีกหนึ่งประเทศยอดนิยมที่คนไทยเข้าได้แบบฟรีวีซ่า จีน ถือเป็นประเทศมหาอำนาจที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและภูมิประเทศ เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและยิ่งใหญ่ สถาปัตยกรรมสุดอลังการ รวมไปถึงการท่องเที่ยวเมืองโบราณที่มาแรงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อาทิ ฟูหรงเจิ้น (Furong Town) หมู่บ้านโบราณที่ตั้งอยู่บนผาน้ำตกสูง หุบเขาเทวดาวั่งเซียนกู่ (Wang Xian Valley) หมู่บ้านโบราณอายุกว่า 2,000 ปี อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie National Forest Park) เจ้าของฉายา ‘หุบเขาอวตาร’ หรือ ‘แพนดอราแห่งโลกมนุษย์’ และอุทยานแห่งชาติหลุมฟ้า-สะพานสวรรค์ (Three Natural Bridges) แล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมตลอดกาลอย่าง กำแพงเมืองจีน พระราชวังต้องห้าม เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง คุนหมิง เฉิงตู ฯลฯ ให้เที่ยวชมได้ตลอดปีแบบไม่มีเบื่อเลยล่ะ
10. Nepal (เนปาล)

ดินแดนแห่งเทือกเขาหิมาลัยและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ เนปาล ประเทศเล็ก ๆ ในเอเชียใต้ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของเทือกเขาหิมาลัยและวัดวาอารามอันศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็น ปศุปตินาถมนเทียร (Pashupatinath Temple) วัดฮินดูที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สถูปสวะยัมภูนาถ (Swayambhunath) สัญลักษณ์ของศาสนาพุทธนิกายวัชรยานแบบทิเบต ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก ปักตะปูร์ (Bhaktapur) เมืองโบราณที่ยังมีลมหายใจอายุกว่า 1,000 ปี ตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,401 เมตร รวมไปถึงเมืองกาฐมาณฑุ (Kathmandu) เมืองหลวงของเนปาล ที่เต็มไปด้วยวัดวาอารามเก่าแก่และสถาปัตยกรรมอันงดงาม หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่แตกต่างและน่าจดจำ
ให้การไปเที่ยวต่างประเทศของคุณเต็มไปด้วยความสุขและความทรงจำประทับใจ พร้อมอุ่นใจทริปเที่ยวเนปาล ภายใต้การคุ้มครองของ ‘ชับบ’' ประกันเดินทางเพียงไม่กี่แบรนด์ในประเทศไทย ที่คุ้มครองครอบคลุมการเดินทางไปเที่ยวเนปาล บนพื้นที่ที่ความสูงไม่เกิน 3,000 เมตร ซื้อประกันการเดินทางต่างประเทศชับบ์ (Chubb Travel Insurance) ยืนหนึ่งเรื่องประกันที่ครอบคลุมทุกเส้นทางทั่วโลก พร้อมติดต่อฉุกเฉินต่างประเทศได้ตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามข้อมูลการคุ้มครองประกันภัยได้ที่โทร. 02 611 4242